4 สนามฝึกขี่จักรยาน BMX สุดเจ๋ง

4 สนามฝึกขี่จักรยาน BMX สุดเจ๋ง

4 สนามฝึกขี่จักรยาน BMX สุดเจ๋ง

สำหรับการขี่จักรยานประเภทวิบาก (BMX) เป็นหนึ่งในกีฬา Extreme ที่เคลื่อนไหวอย่างฟรีสไตล์ โดยใช้สภาพแวดล้อมตามท้องถนนในการเล่น ไม่ว่าจะเป็น บันได กำแพง และราวจับ ฯลฯ ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่ในการขี่จักรยาน BMX ได้ ส่วนท่าทางและรูปแบบการขี่จักรยานนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวผู้ขี่ในการออกแบบท่าทางได้ตามที่ตนเองต้องการ ซึ่งจักรยาน BMX จะถูกออกแบบมาให้ช่วงรถยาวกว่าจักรยานปกติ เพื่อใช้ในการขี่ กระโดด ยกล้อ และการไถลบนราวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง และในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันค่ะว่าในไทย มีสถานที่ไหนบ้างที่เปิดให้เราสามารถเข้าไปขี่จักรยาน BMX กันได้บ้าง

 

4 สนามฝึกขี่จักรยาน BMX สุดเจ๋ง

 

  1. สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต

มาเริ่มกันที่แรกก็คือ สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ที่ตั้งอยู่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่นี่เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เหล่านักปั่นจักรยานนิยมมาทดลองความเร็วและความกล้ากัน เพราะที่นี่มีเลนปั่นจักรยานให้เราได้ปั่นกันยาวกว่า 600 เมตร ทั้งแบบทางเรียบและทางที่เป็นเนิน ที่เปิดให้เราได้เข้าไปฝึกการขี่จักรยาน BMX กันได้สะดวกสุด ๆ ไปเลย พร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลานจอดรถ ห้องน้ำ ร้านเช่าจักรยาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ

  1. ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ สนามปั่นจักรยานวิบาก BMX

ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ สนามปั่นจักรยานวิบาก BMX เป็นอีกหนึ่งสนามกีฬา Extreme ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกและที่สำคัญเข้าฟรี! ด้วยนะคะ โดยสนามปั่นจักรยานแห่งนี้มีพื้นที่ลาดเอียงที่สูงกว่า 3 เมตร ให้เหล่านักขี่จักรยานวิบากได้เข้ามาทดสอบความกล้าของตนเอง และยังได้แบ่งพื้นที่สำหรับเด็กที่ต้องการฝึกขี่จักรยานวิบากเอาไว้ด้านล่าง เพื่อความปลอดภัยในการฝึกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเลนปั่นจักรยานทางเรียบให้เราได้ปั่นชมวิวสวย ๆ ของสวนวารีภิรมย์ได้อีกด้วย

 

 

  1. สนามปั่นจักรยาน Peppermint Bike Park

มาถึงสนามปั่นจักรยาน Peppermint Bike Park ที่ตั้งอยู่แถวบางกะปิ โดยที่นี่เปิดให้เหล่านักปั่นจักรยานทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ได้เข้ามาท้าทายความกล้าในการขี่จักรยานวิบากกัน ซึ่งพื้นที่ถูกออกแบบให้มีเนินสลับกับทางเรียบ และมีความลาดชันพอสมควร ดังนั้นใครที่มาฝึกที่นี่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะเราจะได้ฝึกทั้งทักษะร่างกายและสมองในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะขี่นั่นเองว่าเราจะขี่ให้ผ่านตรงนี้ไปได้อย่างไร

  1. สนาม Pumptrack Slideaway @ปทุมธานี

Pumptrack Slideaway จังหวัดปทุมธานี เป็นสนามกีฬา Extreme ที่เรียกได้ว่ามีพื้นที่ในการปั่นจักรยานที่กว้างขวาง พร้อมทั้งแบ่งพื้นที่ในการปั่นได้อย่างลงตัว โดยได้มีการแบ่งออกเป็นเลนสำหรับการปั่นจักรยานทางเรียบ และในส่วนของการฝึกขี่จักรยานแบบวิบาก (BMX) โดยมีทั้งพื้นที่ลาดชัน ราวจับ และพื้นที่เป็นเนินให้เราได้ไปฝึกซ้อมกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการเล่นสเก็ตบอร์ดอีกด้วย

 

 

4 สนามฝึกขี่จักรยาน BMX สุดเจ๋ง


 

4 สถานที่ปีนผาในไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

4 สถานที่ปีนผาในไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

4 สถานที่ปีนผาในไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

4 สถานที่ปีนผาในไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

ในบทความนี้เราขอเอาใจคนชอบกีฬา Extreme อย่างการปีนหน้าผากันสักหน่อยดีกว่า กับ 4 สถานที่ปีนหน้าผาของภาคตะวันออกในไทยที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าการปีนหน้าผาเป็นกีฬา Extreme ที่ค่อนข้างอันตราย และต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เข้ามาช่วยในขณะปีนหน้าผา ไม่ว่าจะเป็นส่วนของแขนและขา ดังนั้นก่อนที่เราจะเริ่มปีนหน้าผากันจริง ๆ เราต้องทำการวอร์มร่างกาย และตรวจสอบอุปกรณ์ให้พร้อมอยู่เสมอกันด้วยนะคะ

 

 

  1. น้ำตกอ่างฤาไน

มาเริ่มกันที่แรกคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงแล้ว และสถานที่สำหรับการปีนผาก็คือ บริเวณน้ำตกอ่างฤาไน หรือน้ำตกบ่อทอง ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาชนิด จึงเป็นอีกหนึ่งพิกัดสำหรับนักปีนหน้าผาที่นิยมเดินทางมาทดสอบความโหดของการปีนหน้าผา พร้อมชมความสวยงามของธรรมชาติกันที่นี่ (แถมเรายังมีโอกาสได้เจอกับสัตว์ป่าหายากอีกด้วย)

  1. น้ำตกธารรัตนา

สำหรับสถานที่ต่อมาก็คือ น้ำตกธารรัตนา ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสระบุรี นครนายก นครราชสีมา และปราจีนบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหล่านักปีนหน้าผาต้องมา เพราะที่นี่เราจะได้โรยตัวจากหน้าผาด้านบนลงมาด้านล่างที่มีความสูงกว่า 38 เมตรด้วยกัน เรียกได้ว่าทั้งสนุก ตื่นเต้น และแอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่รับรองเลยว่าเราจะได้ผจญภัยจนอยากกลับมาอีกครั้งกันอย่างแน่นอน

 

 

  1. ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง และถ้ำหาดทรายแก้ว

ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง และถ้ำหาดทรายแก้ว จังหวัดสระแก้ว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงามและแปลกตาของหินที่อยู่ภายในถ้ำ นอกจากมาที่นี่แล้วเราจะได้ชมความสวยงามของถ้ำทั้ง 2 แล้วนั้น ที่นี่ยังมีกีฬา Extreme อย่างการปีผาให้เราได้มาทดสอบความกล้ากันอีกด้วย โดยเราสามารถเลือกโรยตัวจากจุดปีนผาที่มีความสูงถึง 25 เมตรลงมาด้านล่างได้ โดยขณะที่เรากำลังโรยตัวลงมาเราจะได้ชมกับความสวยงามของต้นไม้ที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้นอีกด้วย

  1. Deep Climbing Gym

มาเปลี่ยนบรรยากาศการปีนผาแบบจำลองกันดีกว่า กับที่ Deep Climbing Gym จังหวัดชลบุรี ที่มีพื้นที่กว้างให้เหล่านักปีนผาเข้ามาทดสอบความแข็งแรงของร่างกายกว่า 800 ตารางเมตรและมีหน้าผาสูงกว่า 11 เมตรด้วยกัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (เพราะที่นี่เขามีอุปกรณ์ให้เราเช่นกันด้วย ไม่ต้องกลัวเลยว่ามีอุปกรณ์ไม่ครบแล้วจะไม่ได้เล่นกันนะคะ)

 

 

 

4 สถานที่ปีนผาในไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต


 

6 อุปกรณ์สำคัญในการปีนผา

6 อุปกรณ์สำคัญในการปีนผา

6 อุปกรณ์สำคัญในการปีนผา   ร่างกายพร้อม อุปกรณ์ก็ต้องพร้อม!

 

6 อุปกรณ์สำคัญในการปีนผา

 

สำหรับกีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลในไทยคงหนีไม่พ้นการปีนหน้าผา ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนกีฬาประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายไปในตัวแล้ว ยังเป็นการฝึกความท้าทายให้กับตัวเองอีกด้วย เนื่องจากการปีนผาในแต่ละสถานที่นั้นมีระดับความง่ายและยากแตกต่างกันออกไป ดังนั้นนอกจากเราจะต้องฟิตร่างกายให้พร้อมแล้ว ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบและคอยตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์อยู่เสมอ และนี่ก็คืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปีนผาที่เราต้องรู้

  1. เชือกปีนเขา

การเล่นกีฬา Extreme อย่างการปีนผานั้น เชือกปีนเขาเป็นอุปกรณ์ที่เราจะขาดไม่ได้เลย เพราะนอกจากจะเป็นตัวช่วยยึดให้เราสามารถปีนผาได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันแรงกระแทกได้อีกด้วย หากเราลื่นหรือตกลงมายังด้านล่าง โดยความยาวของเชือกปีนเขาที่เราควรเตรียมไว้ได้แก่ ความยาว 40, 50 และ 60 เมตรด้วยกัน

 

 

  1. รองเท้า

การปีนผาที่เป็นหินปูนและมีมุมหรือช่องเล็ก ๆ เยอะนั้น การเลือกใช้รองเท้าปีนผาโดยเฉพาะจะช่วยทำให้เราสามารถลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างปีนผา และยังเป็นการช่วยเซฟเท้าไม่ให้โดนหินบาดอีกด้วย

 

  1. ผงชอล์ค

               เรียกได้ว่าผงชอล์คเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเล่นกีฬา Extreme ประเภทปีนผาเลยทีเดียว เนื่องจากผงชอล์คจะช่วยลดความลื่นของมือขณะปีนผาได้ ซึ่งสำหรับใครที่เวลาปีนผาเหงื่อออกมือเยอะ ๆ ยิ่งจำเป็นจะต้องใช้ผงชอร์คช่วยเลยค่ะ (และที่สำคัญห้ามลืม! พกถุงใส่ชอล์คกันไปด้วยนะ)

  1. อาร์เนส

               สายรัดสะโพก หรือสายรัดนิรภัย อุปกรณ์การปีนผาที่สามารถปรับให้เข้ากับสรีระร่างกายของผู้ปีนแต่ละคนได้ เพื่อช่วยรับน้ำหนักของผู้ปีนขณะโรยตัวลงมานั่นเอง

 

 

  1. หมวกกันกระแทก

หมวกกันกระแทก เป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันอันตรายจากเศษหิน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่อาจจะตกลงมาได้ ขณะที่เรากำลังปีนผาหรือโรยตัวอยู่

  1. อุปกรณ์บีเลย์

อุปกรณ์บีเลย์ ใช้สำหรับการผ่อนเชือก และควบคุมความเร็วในการโรยตัวลงมาด้านล่าง

 

 

ประเภทของการปีนผาที่ควรรู้

ก่อนจะจบบทความนี้กันไป.. เราก็มีเรื่องน่ารู้ของประเภทการปีนผามาบอกกันด้วย สำหรับประเภทของการปีนผาสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

 

  1. Bouldering

Bouldering เป็นการปีนผาระยะสั้นโดยไม่ใช้อานและเชือก ซึ่งจะมีความสูงของหน้าผาประมาณ 3-4 เมตรเท่านั้น

  1. Sport Climbing

               Sport Climbing เป็นการปีนผาที่มีความสูงประมาณ 8-15 เมตร โดยจะต้องมีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการปีนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Top Rope การปีนผาสำหรับมือใหม่ที่จะใช้เชือกช่วยดึงไม่ให้ผู้ปีนตกลงมาด้านล่าง และแบบ Lead Climbing เป็นการปีนผาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความชำนาญแล้ว โดยจะต้องใช้เชือกและอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยในการปีนและโรยตัว

 

 

6 อุปกรณ์สำคัญในการปีนผา


 

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับฝึกเล่นกีฬา Extreme

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับฝึกเล่นกีฬา Extreme

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับฝึกเล่นกีฬา Extreme    ( ในไทย )

เบื่อกันมั้ย? กับการเที่ยวแบบเดิม ๆ ในวันหยุดพักผ่อน สำหรับใครที่กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่นั้น ลองลุกขึ้นมาหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบใหม่กันดีกว่า หรือลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำกัน อย่างเช่น กีฬา Extreme ที่จะทำให้เราได้ลองท้าทายศักยภาพของตนเอง ฉีกทุกกฎ หนีความจำเจ และพาเราไปพบกับความสนุกสุดมันส์ โดยในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมสถานที่เล่นกีฬา Extreme ในไทย มาแนะนำกันด้วย จะมีที่ไหนบ้างนั้น อย่ารอช้า! ตามมาดูกันได้เลย

 

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับฝึกเล่นกีฬา Extreme

 

  1. แก่งกระจาน แอดเวนเจอร์ พอยท์ รีสอร์ท

ใครจะคิดว่าที่พักอย่างรีสอร์ทจะมีสถานที่สำหรับคนชอบเล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์กันด้วยจริงมั้ย? แต่สำหรับที่นี่ แก่งกระจาน แอดเวนเจอร์ พอยท์ รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี เขาไม่ได้มีแค่ความสวยงามของธรรมชาติให้เราได้มาพักผ่อนกันเท่านั้น แต่เขามีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้เราได้ทำอีกมากมาย เช่น ปืนหน้าผาจำลอง, ยิงปืนบีบีกัน, ,ขี่จักรยานเสือภูเขา และล่องแก่ง เป็นต้น

  1. SUB Station Thailand

               สำหรับใครที่กำลังมองหากิจกรรมทางน้ำอยู่นั้น เราขอแนะนำกิจกรรมเล่นบอร์ดกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่ SUP Station Thailand @ปทุมธานี กันเลยค่ะ โดยที่นี่ตั้งอยู่จุดตัดถนนเทศบาล 5 กับถนนเส้นปทุมธานี-สายใน ถ้าหากใครที่กำลังกังวลว่าเล่นไม่เป็น ไม่ต้องกลัวไปเลยค่ะ เพราะที่นี่เขามีครูผู้สอนคอยประกบเราอยู่ตลอดจนกว่าเราจะเล่นได้ หลังจากนั้นเขาจะปล่อยให้เล่นได้ตามสบายเลย (แต่ก็จะอยู่ในการดูแลความปลอดภัยตลอดเวลานะคะ)

 

  1. THE BONANZA ADVENTURE PARK

มาต่อกันที่ THE BONANZA ADVENTURE PARK จังหวัดนครราชสีมา สถานที่เล่นกีฬา Extreme สุดมันส์ ที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมผจญภัยมากมาย เช่น จิ้งจอกเหินเวหา, ปีนหน้าผาจำลอง, ขับรถATV และสถานีเชือกบนความสูงกว่า 5 เมตร เป็นต้น ที่เปิดบริการรอให้ทุกคนได้ไปพิสูจน์ความกล้ากันอยู่นะคะ

 

 

  1. BLACK MOUNTAIN WATER PARK

               มาเอาใจคนชอบเล่นสวนน้ำกันสักหน่อยดีกว่ากับ BLACK MOUNTAIN WATER PARK จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ขอบอกเลยว่าสวยน้ำแห่งนี้ไม่ใช่สวนน้ำธรรมดาที่เราเคยเล่นกัน เพราะนี้มีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวให้เราได้เข้ามาทดสอบความกล้าของจิตใจและร่างกายกันมากมาย เช่น สไลเดอร์ 9 แบบ (ที่มีความยากสูงแตกต่างกันออกไป), หอคอยที่สูง 17 เมตร, Wave Pool คลื่นยักษ์, Wakeboard และโซนน้ำวน เป็นต้น ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเล่นกีฬา Extreme ทางน้ำเป็นที่สุด (ที่จะเข้ามาฝึกฝนฝีมือกันค่ะ)

 

 

  1. เบิร์ด พาราไดซ์ เอ็กซ์ตรีม รีสอร์ท

               ปิดท้ายด้วย เบิร์ด พาราไดซ์ เอ็กซ์ตรีม รีสอร์ท จังหวัดสกลนคร ที่ใครชอบกิจกรรมหวาดเสียวและผจญภัยต้องไม่พลาดเลย เพราะที่นี่เขามีกิจกรรมเหินฟ้าให้เราได้ลองท้าทายตัวเองกัน นั่นก็คือ โดดร่มดิ่งพสุธา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์อีกมากมาย เช่น การปืนผาจำลอง, กิจกรรมโรยตัวจากหอ และขับรถATV เป็นต้น

 

 

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับฝึกเล่นกีฬา Extreme


 

ก่อนเล่น Wakeboard ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?

ก่อนเล่น Wakeboard ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?

ก่อนเล่น Wakeboard ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?

เวคบอร์ด (Wakeboard) เป็นอีกหนึ่งกีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมในไทย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำที่ผสมผสานการเล่นระหว่างสกีน้ำและการเล่นเซิร์ฟเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และสำหรับผู้ที่สนใจอยากลองเล่นกีฬาชนิดนี้นั้น ในบทความนี้เราก็มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬา Wakeboard มาบอกกันด้วยทั้งในเรื่องวิธีการเล่นและอุปกรณ์สำคัญที่เราต้องเตรียมให้พร้อมก่อนลงเล่นจริง มิฉะนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุขณะเล่นได้ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย

 

ก่อนเล่น Wakeboard ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?

 

วิธีการเล่นและประเภทของเวคบอร์ด (Wakeboard)

               สำหรับวิธีการเล่นกีฬา Extreme อย่างเวคบอร์ด (Wakeboard) นั้น เป็นการเล่นโดยใช้สลิงลากผู้เล่นให้เคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำ ทั้งนี้เวคบอร์ดที่ผู้เล่นนิยมใช้กันมี 3 แบบ ดังนี้

  1. นีบอร์ด (Knee Board) เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกเล่นเนื่องจากเป็นบอร์ดแบบนั่งคุกเข่า ที่ใช้ช่วยในการฝึกทรงตัวบนผิวน้ำและเป็นการฝึกให้ผู้เล่นชินกับแรงดึงของสลิงนั่นเอง
  2. เวคบอร์ด (Wake Board) เป็นบอร์ดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่สามารถยืนทรงตัวบนบอร์ดได้ โดยจะมีรองเท้าบูธที่ยึดติดกับบอร์ด ทำให้ผู้เล่นสามารถยืนเล่นได้ขณะที่สลิงกำลังลากไปบนผิวน้ำ
  3. เวคสเก็ต (Wake Skate) เป็นบอร์ดที่เหมาะสำหรับคนที่มีความชำนาญในการเล่น Wakeboard เนื่องจากตัวบอร์ดเป็นพื้นกระดาษทราย เวลาเล่นต้องใส่รองเท้าผ้าใบ ซึ่งความสากของพื้นจะช่วยทำให้รองเท้ายึดกับตัวบอร์ดได้ดี

 

 

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมให้พร้อม.. ก่อนลงเล่นเวคบอร์ด (Wakeboard)

  1. ชุดดำน้ำ (Wetsuit)

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเล่นกีฬา Extreme อย่างเวคบอร์ด (Wakeboard) จะเลือกใส่เป็นชุดบิกินี่ ชุดว่ายน้ำ หรือเสื้อยืดกางเกงขาสั้นก็ได้ ซึ่งอาจจะไม่พอต่อความปลอดภัยในการเล่นและการป้องกันรังสี UV จากแสงแดด ดังนั้นเวลาที่เราจะลงเล่นเวคบอร์ดควรเลือกใส่เป็นชุดดำน้ำที่สามารถที่ช่วยกันความร้อนและกันแรงกระแทกจากสิ่งต่าง ๆ ได้

  1. เสื้อชูชีพ (Buoyancy Aid)

เสื้อชูชีพ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่คาดไม่ได้เลยสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ เนื่องจากเสื้อชูชีพมีประโยชน์ที่จะช่วยทำให้เราสามารถลอยตัวในน้ำและว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นไม่ว่าเราจะว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็ตาม การสวมเสื้อชูชีพเอาไว้ขณะเล่นกีฬาทางน้ำจะช่วยทำให้เราปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

  1. หมวกป้องกันศีรษะ (Helmet)

มาถึงอุปกรณ์สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ หมวกป้องกันศีรษะแบบครึ่งหัว ที่ต้องสวมใส่ขณะเล่นเวคบอร์ดอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันศีรษะกระแทกหากเราตกลงไปในน้ำ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่เราจะต้องใส่คู่กันไปด้วยขณะเล่นก็คือ สนับศอก สนับเข่า และถุงมือ

              

 

 

ก่อนเล่น Wakeboard ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?


 

4 สถานที่เล่นกีฬา Extreme ในกรุงเทพฯ

4 สถานที่เล่นกีฬา Extreme ในกรุงเทพฯ

4 สถานที่เล่นกีฬา Extreme ในกรุงเทพฯ         ( ที่จะทำให้เราได้เพิ่มศักยภาพให้กับตนเอง )

 

ทุ่มเทกับการทำงานมาเกือบตลอดทั้งปีกันแล้ว… หาวันหยุดไปพักผ่อนกันสักหน่อยดีกว่า หลาย ๆ คนอาจจะมีวิธีในการพักผ่อนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง กินบุฟเฟต์ หรือนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้พอทำไปบ่อย ๆ หลาย ๆ คนอาจจะเบื่อกันได้ ดังนั้นในบทความนี้เราก็มีวิธีการพักผ่อนที่นอกจากช่วยทำให้เราคลายเครียดและสนุกได้แล้วนั้น ยังทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย นั่นก็คือ กีฬา Extreme ที่ปัจจุบันในไทยก็มีหลาย ๆ สถานที่เปิดให้บริการโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีให้เราได้เลือกไปเล่นคลายเครียดกันหลายที่ด้วยกัน จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันได้เลย

 

4 สถานที่เล่นกีฬา Extreme ในกรุงเทพฯ

 

  1. ท้าทายร่างกายด้วยการปีนผาจำลอง

               มาเริ่มกันที่กีฬา Extreme ประเภทแรกที่เรียกได้ว่า เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและคนวัยทำงานกันเลยทีเดียวสำหรับการปีนผาจำลอง และสถานที่ปีนหน้าผาจำลองใจกลางกรุงเทพฯ ที่เราจะแนะนำในบทความนี้ก็คือ Urban Playground Climbing สถานที่สำหรับคนชอบความท้าทายและหลงรักในการปีนผา เพราะที่นี่มีหน้าผาจำลองให้เราได้ท้าทายตัวเองบนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตรที่จะมีระดับความยากในแต่ละหน้าผาจำลองที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นใครจะมาท้าทายตัวเองกันที่นี่นอกจากจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้ว ก็ต้องฟิตร่างกายให้พร้อมมาด้วยนะคะ

  1. 2. ฝึกความแข็งแรงของขาด้วยการโต้คลื่น

อากาศร้อนแบบนี้.. สำหรับใครที่กำลังมองหากิจกรรมทางน้ำเล่นอยู่นั้น ขอบอกเลยว่าไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีให้เราได้เล่นเหมือนกันนั่นก็คือ กิจกรรมโต้คลื่นสุดมันส์ @ Flow House Bangkok ที่ตั้งอยู่ใน A-Square ซอยสุขุมวิท 26 โดยที่นี่มีกิจกรรมทางน้ำอย่าง Flowboard ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด และสโนว์บอร์ดเข้าไว้ด้วยกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกีฬา Extreme สุดมันส์ที่เราไม่ควรพลาดกันเลยค่ะ

 

 

  1. VR Games

VR Games เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะทำให้เราสามารถสัมผัสกับโลกเสมือนจริงได้อย่างสนุก น่าตื่นเต้น เร้าใจ และผจญภัยไปกับด่านต่าง ๆ มากมาย ณ Zero Latency Bangkok ตั้งอยู่สยาม ซอย 6 สถานที่ที่รวมเอาคนวัยมันส์มาเจอกัน โดยที่นี่มีเกมให้เราได้เลือกเล่นกันถึง 6 แบบ ได้แก่ Undead arena, Engineerium, Zombie Survival, Singularity, Sol Raiders, และ Outbreak Origins

  1. สเก็ตบอร์ด กิจกรรมโลดโผนสุดมันส์

               ปิดท้ายด้วยกีฬา Extreme สุดมันส์อย่าง สเก็ตบอร์ด กีฬาโลดโผนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ และในกรุงเทพฯ ก็มีสถานที่สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นสเก็ตบอร์ดเปิดให้เราได้เข้าไปเล่นกันด้วยนั่นก็คือ Thammasat X-treme Plaza ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ที่นอกจากจะมีพื้นที่สำหรับเอาไว้เล่นสเก็ตบอร์ดแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับเล่นโรลเลอร์เบลดและขี่จักรยานโลดโผน BMX ให้เราได้เข้าไปฝึกและโชว์ของกันอีกด้วย

 

 

 

4 สถานที่เล่นกีฬา Extreme ในกรุงเทพฯ


 

.

.

อุปกรณ์ป้องกันตัวในการเล่นสเก็ตบอร์ด

อุปกรณ์ป้องกันตัวในการเล่นสเก็ตบอร์ด

อุปกรณ์ป้องกันตัวในการเล่นสเก็ตบอร์ด

อย่างที่รู้กันดีว่ากีฬา Extreme เป็นกีฬาที่เน้นในเรื่องของการผาดโผนเป็นหลัก ผู้เล่นนอกจากจะต้องมีความชำนาญยังต้องมีความกล้าในตัวด้วยเช่นเดียวกัน และในไทยกีฬาชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดาวัยรุ่น ซึ่งชนิดกีฬาที่วัยรุ่นในไทยโปรดปรานคงจะหนีไม่พ้น สเก็ตบอลร์ด. เซิร์ฟสเก็ต และ จักรยาน BMX ในครั้งนี้จะขอกล่าวถึงอุปกรณ์ป้องกันตัวเองในการเล่นสเก็ตบอร์ดว่ามีอะไรกันบ้าง และแต่ละอย่างสำคัญอย่างไร

 

อุปกรณ์ป้องกันตัวในการเล่นสเก็ตบอร์ด

 

  1. หมวกกันน็อค – หมวกกันน็อคในที่นี้ไม่ใช่หมวกกันน็อคมอเตอร์ไซค์แต่อย่างใด แต่เป็นหมวกกันน็อคแบบปิดลงมาจนถึงใกล้ช่วงท้ายทอยของผู้เล่น ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้คิดถึงหมวกกันน็อคนั่นแหละ แต่จะมีลักษณที่โปร่งกว่าและเบากว่า นั่นก็เพื่อป้องกันเวลาผู้เล่นทรงตัวไม่อยู่แล้วล้มลงกับพื้น ส่วนมากเวลาล้มคนเราก็จะเอามือลงก่อน แต่บางครั้งเราล้มแต่ศีรษะของเราอาจจะไปกระแทกกับสิ่งของที่วางอยู่ใกล้ๆ ถ้ามีหมวกกันน็อคคอยกันไว้ก็จะช่วยลดอันตรายลงได้อย่างมาก

 

 

  1. สนับข้อศอก – ข้อศอกหรือแขนของผู้เล่นส่วนมากจะใช้ในการประคองตัวหรือทำบาลานซ์ให้กับร่างกาย และเมื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่มักจะได้แผลหรือเจ็บหนักที่สุด หากล้มแรงอาจจะทำให้ข้อศอกแตกหรือถึงขั้นหักเลยก็ได้ ดังนั้นการใส่สนับข้อศอกนอกจากจะเป็นช่วยลดแรงกระแทกตอนล้ม ยังช่วยในการป้องกันข้อศอกของผู้เล่นให้อยู่ในสภาพที่ดี ยังไงเวลาล้มต้องมีแผลต้องปวดอยู่แต่ถ้าเราใส่ติดไว้ ก็จะลดเรื่องเหล่านี้ลงไปได้
  2. สนับมือและฝ่ามือ – สนับมือในที่นี้ไม่ใช่สนับมือที่ใส่ไปต่อยคนหรืออะไรนะ แต่หากใครที่เคยเห็นจะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับถุงมือ แต่เป็นถุงมือเซฟตี้ที่นักกีฬาประเภทนี้ใช้กัน ซึ่งบางครั้งอาจจะมีแค่สนับมืออย่างเดียวหรือบางอันอาจจะเป็นแบบป้องกันทั้งข้อมือและฝ่ามือมาเลย ตรงนี้จะช่วยเวลาที่เราเอามือลงนั้นไม่เกิดบาดแผลหรือาจจะเกิดแต่ก็ไม่รุนแรงมากเท่าไหร่ ซึ่งบางคนรุนแรงถึงขั้นข้อมือหักเลยทีเดียว

 

 

 

  1. สนับเข่า – อุปกรณ์ป้องกันตัวที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งคือสนับเข่า อุบัติเหตุส่วนมากสำหรับนักกีฬาประเภทนอกจากข้อศอกที่จะรับบทหนักแล้ว หัวเข่าก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หากได้รับบาดเจ็บแล้วเกิดอันตรายได้เช่นเดียวกัน บางรายถึงขั้นหัวเข่าหรือแตกเลยทีเดียว ดังนั้นการมีสนับเข่าจะช่วยเซฟหัวเข่าของผู้เล่นเป็นอย่างมากตอนที่เกิดอุบัติเหตุ

 

 

ทั้งหมดนี่ก็คืออุปกรณ์ป้องกันตัวเองเบื้องต้นในการเล่นสเก็ตบอร์ดที่นักกีฬามือใหม่ไม่ควรมองข้ามไปแต่อย่างใด เพราะอุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากความประมาทของเรา แต่บางครั้งก็อาจะเกิดจากเหตุสุดวิสัย ดังนั้นถ้าเราป้องกันตัวเองให้ดีๆ ก็จะช่วยป้องกันร่างกายและชีวิตของผู้เล่นเอาไว้ได้ หรือบางครั้งหากเตรียมหากอุปกรณ์พวกนี้ไม่ทัน การใส่เสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาวก็จะช่วยเซฟตอนล้มได้เช่นเดียวกัน

 

 

อุปกรณ์ป้องกันตัวในการเล่นสเก็ตบอร์ด


 

.

.

ส่วนประกอบจักรยาน BMX

ส่วนประกอบจักรยาน BMX

ส่วนประกอบจักรยาน BMX

 

ส่วนประกอบจักรยาน BMX

 

จักรยาน BMX เป็นอีกหนึ่งกีฬาประเภทกีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย มีเยาวชนมากมายให้ความสนใจจะเป็นนักกีฬาจักรยาน BMX ในไทยก็ได้มีการเปิดสอนตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นโต และก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาเยาวชนที่ชื่นชอบกิจกรรมดังกล่าว ในครั้งนี้จะขอพามาพบกับส่วนประกอบคร่าวๆ ของจักรยาน BMX ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างและแต่ละอย่างมีความสำคัญอย่างไร

  1. Frame (ตัวถัง) – อย่างแรกที่เราจะต้องรู้คือตัวถังหรือเฟรมรถเพราะจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นหลักในการขี่ BMX ปัจจุบันนิยมใช้เหล็กที่เรียกว่า “โครโมลี่ (Chromoly) โดยเป็นเหล็กที่มีน้ำหนักเบาแต่รองรับในเรื่องของการกระแทกได้เป็นอย่างดีและปลอดภัยเป็นอย่างมากในเวลาขี่ แต่ก็ยังมีบางบริษัทนำเหล็ก Hi – Ten มาทำเป็นตัวถังแม้ว่าจะมีน้ำหนักเบากว่า แต่ก็ไม่ดีเท่ากับเหล็กโครโมลี่ และอีกอย่างที่นิยมนำมาทำคือ “ไทเทเนียม (Titanium) แต่ปัจจุบันไม่มีบริษัทไหนใช้ในการผลิตแล้ว

 

  1. Fork (ตะเกียบ) – ตะเกียบจะเป็นตัวช่วยยึดระหว่างตัวถังกับล้อและยึดกับแฮนด์ที่จับ ซึ่งตัวเหล็กที่ใช้ก็จะเป็นเหล็ก 4310 โครโมลี่ เช่นเดียวกันตัวถังรถ เพราะมีน้ำหนักเบาแต่มีความทนทานในระดับที่สูงเลยทีเดียว

 

 

 

 

  1. Handlebar (แฮนเดิลบาร์ หรือ แฮนด์) – อุปกรณ์ที่ใช้จับเพื่อทรงตัวจักรยานไม่ให้ล้ม แน่นอนก็ทำมาจากเหล็ก 4310 โครโมลี่ เช่นเดียวกัน ตัวแฮนด์จะมีความสูงตั้งแต่ 7 นิ้ว ไปจนถึง 8.5 นิ้ว และมีขนาดความยาวตั้ง 25 นิ้ว ไปจนถึง 29 นิ้ว ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับสรีระและความถนัดของนักขี่เป็นหลักว่าจะเลือกขนาดไหน
  2. Pedals (บันได) – อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ส่งแรงให้จักรยานเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยตัวก้านของบันไดก็ทำมาจากเหล็ก 4310 โครโมลี่ แต่ในปัจจุบันก็มีการนำอลูมิเนียมมาผสมกับแม็กนีเซียม จริงๆ ก็มีมานานแล้ว ส่วนตัวบันไดนั้นนอกจากจะนำเหล็ก, อลูมิเนียม + แม็กนีเซียม มาทำ ยังมีบางเจ้าได้นำพลาสติกมาทำด้วยเช่นเดียวกันเพราะมีราคาถูกและขึ้นรูปใส่สีได้ง่ายกว่า แต่ความคงทนคงเทียบกับอย่างอื่นไม่ได้

 

 

 

  1. Sprocket (ใบจาน) และ Chain (โซ่) – อย่างต่อมาคือใบจานและโซ่ 2 สิ่งที่จะทำให้จักรยานของเราเคลื่อนไปข้างหน้าได้ โดยตัวใบจานจะเป็นอลูมิเนียม มี 2 เกรดคือ 6075 และ 7075 ส่วนตัวฟันนั้นจะมีตั้งแต่ 23T ไปจนถึง 46T ตรงี้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนว่าจะใช้จานขนาดไหน ต่อมาคือโซ่จะมี 2 แบบคือ แบบธรรมดากับ Half Link โดยแบบธรรมดานั้นในแต่ละช่วงจะมีข้อต่อ 2 ตัว แต่แบบ Half Link จะมีข้อต่อเดียวนั่นเพื่อช่วยในการตั้งโซ่ตั้งล้อให้ง่ายขึ้น

 

  1. Rim (ขอบล้อ) และ Tire (ยาง) – สิ่งที่ต่อมาจะขาดไม่ได้เลยคือล้อกับยางถ้าไม่มี 2 สิ่งนี้ จักรยานจะไม่มีทางเคลื่อนที่ไปได้ด้วยเด็ดขาด ขอบล้อจะมีตั้งแต่ 36 รูและ 48 รู เพื่อรองรับดุมหน้าและหนัง ส่วนความหนาจะมี 1 2 3 ชั้นไล่ไปก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนตัวยางนั้น จะมี 2 แบบคือ Street กับ Dirt โดยแบบแรกจะใช้เล่นทั่วไปในพื้นเรียบเช่นถนน, คอนพรีต เป็นต้น ส่วนแบบที่ 2 จะเน้นในการแข่งขันที่พื้นไม่สม่ำเสมอเป็นหลัก

 

 

  1. Seat (เบาะ) – อุปกรณ์สำคัญอย่างสุดท้ายคือเบาะ เป็นสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เพราะจะทำให้การนั่งขี่ลำบากแน่ถ้าไม่มีเบาะ ส่วนขนาดก็แล้วแต่ความชอบแล้วแต่ความถนัดของนักกีฬา

 

ทั้งหมดนี่คือส่วนประกอบสำคัญๆ ของจักรยาน BMX เอาจริงๆ แล้วในจักรยานหนึ่งคันนั้นยีงมีส่วนประกอบอีกหลายยิบย่อยออกไป หากใครที่คลุกคลีกับจักรยานอยู่บ่อยครั้งก็คงจะรู้ดีว่าแต่ละส่วนนั้นมีอุปกรณ์ประกอบย่อยๆ อะไรอีกบ้างๆ สำหรับมือใหม่ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน

 

 

ส่วนประกอบจักรยาน BMX


 

.

.

ประเภทของสเก็ตบอร์ดมีอะไรบ้าง

ประเภทของสเก็ตบอร์ดมีอะไรบ้าง

ประเภทของสเก็ตบอร์ดมีอะไรบ้าง

สเก็ตบอร์ด กีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่วัยรุ่นทั้งในต่างประเทศและในไทย ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่ยากจนเกินไปและปลอดภัยในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับกีฬา Extreme ชนิดอื่นๆ ซึ่งสเก็ตบอร์ดนั้นก็มีการแบ่งประเภทเอาไว้อย่างชัดเจน โดยจะมีทั้งหมดกี่ประเภทและอะไรบ้างนั้นไปรับชมกันได้เลย

 

ประเภทของสเก็ตบอร์ดมีอะไรบ้าง

 

  1. สเก็ตบอร์ด – ประเภทแรกคือสเก็ตบอร์ดทั่วไปที่ทุกคนเห็นกันเป็นประจำ โดยตัวบอร์ดจะทำจากไม้เมเปิ้ลที่มีความทนทานและยืดหยุ่น โดยส่วนมากแล้ว สเก็ตบอร์ด จะมีความยาวอยู่ที่ 32 นิ้วด้วยกัน ส่วนความกว้างนั้น จะอยู่ที่ 7.5 – 8.5 นิ้วด้วยกัน แต่สำหรับมือใหม่นั้นแนะนำให้ใช้สเก็ตบอรด์ที่มีความกว้างและความยาวกว่าเดิมนิดหน่อยเพื่อเอาไว้บาลานซ์ตัวเอง และท่าแรกที่นักสเก็ตบอร์ดมือใหม่และมือเก่าต้องทำได้เลยนั่นคือท่า ออนลี่ ท่าง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วยากเหมือนกัน

 

  1. ลองบอร์ด – ประเภทต่อมาคือ ลองบอร์ด ที่ทวีความยากมากขึ้นไปอีกเหมาะสำหรับผู้ที่เล่นสเก็ตบอร์ดจนชำนาญแล้ว เพราะตัวลองบอร์ดนั้นจะมีความยาวและความกว้างมากกว่าสเก็ตบอร์ดปกติ โดยตัวลองบอร์ดจะมีความยาวอยู่ที่ 34 – 40 นิ้ว ส่วนความกว้างอยู่ที่ 8 – 8.5 นิ้ว และมีล้อที่ยื่นออกมาจากตัวบอร์ด โดยผู้ที่เล่นลองบอร์ดส่วนมากจะชอบทำท่าหมุนไปมาในขณะที่ไถลลงจากเนิน เรียกได้ว่ายากกว่าทำท่า ออนลี่ ขึ้นมาอีก
  2. เพนนี่บอร์ด – มาถึงไอเทมที่เหมาะสำหรับสาวๆ กับ เพนนี่บอร์ด ที่เป็นลูกผสมระหว่าง สเก็ตบอร์ด + ลองบอร์ด แต่เพนนี่บอร์ดจะมีขนาดที่สั้นกว่าโดยจะมีไซส์ให้เลือกที่ 22 – 27 นิ้ว หากเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างเล็กก็สามารถเล่นได้เช่นเดียวกัน ตัวบอร์ดนั้นทำมาจากพลาสติกแต่เป็นพลาสติกที่แข็งรองรับน้ำหนักได้ดี เพราะตัวเพนนี่บอร์ดไม่ได้ออกมาเพื่อล่าท่าทางเท่าไหร่เหมือนกับให้สาวๆ ไถไปเท่ๆ มากกว่า จุดกำเนิดของเพนนี่บอร์ดมาจากประเทศออสเตรเลีย

 

 

  1. ฟิงเกอร์บอร์ด – บอร์ดประเภทต่อมาเอาใจสายชิลที่อยากจะเล่นบอร์ดที่ไหนก็ได้กับ ฟิงเกอร์บอร์ด บอร์ดขนาดจิ๋วที่ใช้นิ้วเล่นเป็นหลักสามารถหยิบเอามาเล่นได้ทุกที่โดยไม่ต้องกลัวอุบัติเหตุแต่อย่างใด ฟิงเกอร์บอร์ดมีความยาวอยู่ที่ 4 นิ้วเท่านั้น บางคนที่ได้มันไว้ครอบครองอาจจะมองว่าใช้นิ้วเล่นง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงแล้วก็ยากเหมือนกัน และก็มีท่าทางไว้ให้ฝึกใช้นิ้วเล่นกันด้วย ปัจจุบันฟิงเกอร์บอร์ดยังคงมีจำหน่ายอยู่ในไทย

 

      5. เซิร์ฟสเก็ต – บอร์ดอันสุดท้ายที่มีการพัฒนาไปจากสเก็ตบอร์ดกับ เซิร์ฟสเก็ต ไอเทมที่กำลังมาแรงในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศตอนนี้ โดยรูปร่างทุกอย่างจะเหมือนสเก็ตบอร์ดทุกอย่าง แต่ตัวบอร์ดจะมีขนาดใหญ่กว่าใช้วัสดุที่เบากว่าสเก็ตบอร์ด แต่มีความทนทานไม่แพ้กัน กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาวัยรุ่นในยุค New Normal อีกจุดที่แตกต่างจากสเก็ตบอร์ดคือ สเก็ตบอร์ดจะเน้นการใช้ขาไถและทวงท่าลีลา แต่เซิร์ฟบอร์ดเน้นไปตามแรงส่งและใช้การทรงตัวเลี้ยวไปมา เพราะตัวล้อของเซิร์ฟสเก็ตนั้นสามารถเลี้ยวซ้ายขวาได้

 

 

จบกันไป สำหรับมือใหม่ที่อยากจะเล่นก็ลองเลือกเล่นให้เหมาะกับความชอบและความถนัดของตัวเอง หากชอบเล่นท่าลีลาก็เล่นสเก็ตบอร์ด แต่หากต้องการฝึการทรงตัวไปมาแนะนำให้เล่นเซิร์ฟสเก็ต แต่ถ้าอยากมีไว้เท่ๆ ลองเลือกเพนนี่บอร์ดกับฟิงเกอร์บอร์ดดู ส่วนลองบอร์ดนั้นเอาไว้ชำนาญการก่อนและค่อยมาลองเล่นก็ไม่สายจนเกินไป

 

 

ประเภทของสเก็ตบอร์ดมีอะไรบ้าง


 

.

.

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

กีฬา Extreme อย่างที่ทุกคนรู้จักคือกีฬาที่ต้องใช้ความกล้าบวกกับประสบการณ์เข้ามาผสมถึงจะกล้าเล่นกีฬาเหล่านั้น เพราะกีฬาเหล่านั้นเป็นเหมือนการเล่นที่ท้าทายกับความเป็นความตายของมนุษย์ ในหลายๆ ประเภทกีฬามีการท้าทายหรือมีการผจญภัยที่เรียกได้ว่าหากใครไม่พร้อมจริงอย่าเล่นจะดีกว่า และกีฬา “บันจี้จัมพ์” ก็เป็นอีกหนึ่งกีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงในไทยก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน

 

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

 

บันจี้จัมพ์ จะมีลักษณะการเล่นอยู่ที่ผู้เล่นจะต้องเดินขึ้นไปบนที่สูงๆ เช่นสะพานหรือตึงสูง หรือบนหอกระโดดที่สร้างขึ้นมาอย่างได้มาตรฐาน จากนั้นก็จะนำเชือกฝั่งหนึ่งผูกยึดติดกับสิ่งปลูกสร้างสิ่งนั้นไว้ และปลายเชือกอีกฝั่งจะผูกมัดไว้กับข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้เล่น จากนั้นผู้เล่นจะทำการกระโดดลงมา และเมื่อถึงพื้นเชือกจะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับสปริงคอยดึงตัวผู้เล่นขึ้นไป และจะสลับอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่ท้าทายความตายได้ดีพอสมควร แต่กลับได้รับความนิยมมากมายในต่างประเทศ

สำหรับประวัติของ บันจี้จัพม์ นั้นตามที่มีบันทึกเอาไว้ว่าเป็นการแสดงความกล้าหาญของชาวหนุ่มขนเผ่า “เมลานิเซียน” ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีพื้นเพอยู่บนหมู่เกาะแปซิฟิก โดยชายหนุ่มของเผ่านี้จะกระโดดหน้าผาที่มีความสูง 20 เมตร โดยที่ใช้เถาวัลย์ผุกกับข้อเท้าแค่นั้น หากทำสำเร็จจะได้รับการยอมรับจากคนในเผ่าอย่างล้นหลาม จากนั้นในเวลาต่อมาชมกีฬาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University Dangerous Sport Club) ได้ไปเจอแล้วนำกีฬาชนิดนี้มาเล่น โดยเปลี่ยนจากเถาวัลย์มาใช้เชือกที่มีความเหนียวและยืดหยุ่นแทน

ทุกอย่างทำออกมาได้ดี พวกเขาทำการทดลงโดยกระโดดลงมาจาก London Bridge อย่างสวยงาม ไม่มีใครเป็นอันตรายในการกระโดดครั้งนั้น แต่พวกเขาทำการเล่นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นและไม่เคยเล่น บันจี้จัพม์ อีกเลย จนกระทั่งผ่านมาถึงปี ค.ศ.1988 บันจี้จัมพ์ ได้กลับมามีชื่อบนหน้าหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นอีกครั้ง คราวนี้เป็น A.J.Hackett ได้นำกีฬาชนิดนี้มาใช้ในเชิงพาณิชย์ และทำเงินได้อย่างมหาศาลได้รับความนิยมมากมาย และได้พัฒนาให้มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือจนกลายเป็นกีฬา Extreme สุดฮิตมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

สำหรับการเข้าในประเทศไทยนั้นไม่มีบอกอย่างชัดเจนว่าเข้ามาในปีไหน แต่บรรดาที่พักชื่อดังทั้งในภูเก็ต, เชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดของไทย ต่างนำบันจี้จัมพ์ มาเป็นจุดขายให้กับที่พักของตัวเอง และแต่ละที่นั้นมีการรับรองความปลอดภัยในระดับสูง เรียกได้ว่ามั่นใจได้อย่างแน่นอนไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แต่ปัจจุบันกีฬาชนิดนี้ถูกลดความนิยมลงไป แต่ยังคงมีเล่นอยู่ในบางสถานที่ท่องเที่ยว หากใครสนใจก็หาข้อมูลแล้วพอหมดโควิด – 19 ก็ไปลุยกันได้เลย

 

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู


 

.

.