บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

กีฬา Extreme อย่างที่ทุกคนรู้จักคือกีฬาที่ต้องใช้ความกล้าบวกกับประสบการณ์เข้ามาผสมถึงจะกล้าเล่นกีฬาเหล่านั้น เพราะกีฬาเหล่านั้นเป็นเหมือนการเล่นที่ท้าทายกับความเป็นความตายของมนุษย์ ในหลายๆ ประเภทกีฬามีการท้าทายหรือมีการผจญภัยที่เรียกได้ว่าหากใครไม่พร้อมจริงอย่าเล่นจะดีกว่า และกีฬา “บันจี้จัมพ์” ก็เป็นอีกหนึ่งกีฬา Extreme ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงในไทยก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน

 

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู

 

บันจี้จัมพ์ จะมีลักษณะการเล่นอยู่ที่ผู้เล่นจะต้องเดินขึ้นไปบนที่สูงๆ เช่นสะพานหรือตึงสูง หรือบนหอกระโดดที่สร้างขึ้นมาอย่างได้มาตรฐาน จากนั้นก็จะนำเชือกฝั่งหนึ่งผูกยึดติดกับสิ่งปลูกสร้างสิ่งนั้นไว้ และปลายเชือกอีกฝั่งจะผูกมัดไว้กับข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้เล่น จากนั้นผู้เล่นจะทำการกระโดดลงมา และเมื่อถึงพื้นเชือกจะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับสปริงคอยดึงตัวผู้เล่นขึ้นไป และจะสลับอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่ท้าทายความตายได้ดีพอสมควร แต่กลับได้รับความนิยมมากมายในต่างประเทศ

สำหรับประวัติของ บันจี้จัพม์ นั้นตามที่มีบันทึกเอาไว้ว่าเป็นการแสดงความกล้าหาญของชาวหนุ่มขนเผ่า “เมลานิเซียน” ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีพื้นเพอยู่บนหมู่เกาะแปซิฟิก โดยชายหนุ่มของเผ่านี้จะกระโดดหน้าผาที่มีความสูง 20 เมตร โดยที่ใช้เถาวัลย์ผุกกับข้อเท้าแค่นั้น หากทำสำเร็จจะได้รับการยอมรับจากคนในเผ่าอย่างล้นหลาม จากนั้นในเวลาต่อมาชมกีฬาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University Dangerous Sport Club) ได้ไปเจอแล้วนำกีฬาชนิดนี้มาเล่น โดยเปลี่ยนจากเถาวัลย์มาใช้เชือกที่มีความเหนียวและยืดหยุ่นแทน

ทุกอย่างทำออกมาได้ดี พวกเขาทำการทดลงโดยกระโดดลงมาจาก London Bridge อย่างสวยงาม ไม่มีใครเป็นอันตรายในการกระโดดครั้งนั้น แต่พวกเขาทำการเล่นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นและไม่เคยเล่น บันจี้จัพม์ อีกเลย จนกระทั่งผ่านมาถึงปี ค.ศ.1988 บันจี้จัมพ์ ได้กลับมามีชื่อบนหน้าหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นอีกครั้ง คราวนี้เป็น A.J.Hackett ได้นำกีฬาชนิดนี้มาใช้ในเชิงพาณิชย์ และทำเงินได้อย่างมหาศาลได้รับความนิยมมากมาย และได้พัฒนาให้มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือจนกลายเป็นกีฬา Extreme สุดฮิตมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

สำหรับการเข้าในประเทศไทยนั้นไม่มีบอกอย่างชัดเจนว่าเข้ามาในปีไหน แต่บรรดาที่พักชื่อดังทั้งในภูเก็ต, เชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดของไทย ต่างนำบันจี้จัมพ์ มาเป็นจุดขายให้กับที่พักของตัวเอง และแต่ละที่นั้นมีการรับรองความปลอดภัยในระดับสูง เรียกได้ว่ามั่นใจได้อย่างแน่นอนไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แต่ปัจจุบันกีฬาชนิดนี้ถูกลดความนิยมลงไป แต่ยังคงมีเล่นอยู่ในบางสถานที่ท่องเที่ยว หากใครสนใจก็หาข้อมูลแล้วพอหมดโควิด – 19 ก็ไปลุยกันได้เลย

 

บันจี้จัพม์ สุดยอดกีฬาท้ามฤตยู


 

.

.