Archives มกราคม 2021

หลักสูตร Professional Scuba Diving คุณก็ต้องลงเรียน ครอส Professional Scuba Diver กันไปเลย เรียกได้ว่าเป็น หลักสูตรนักดำน้ำมืออาชีพ

หลักสูตร Professional Scuba Diving

หลักสูตร Professional Scuba Diving

หากคุณคิดว่า การดำน้ำ เป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบและคิดว่าอยากจะไปให้สุดทางแล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยว่าแค่เพียงการดำน้ำเล่นๆ แบบสันทนาการเพื่อชมความสวยงามของโลกใต้น้ำเพียงเท่านั้นคงจะไม่พออย่างแน่นอน เรียกได้ว่าหากหลงรักอะไรแล้ว อยากจะเต็มที่กับมันคุณก็ต้องลงเรียน ครอส Professional Scuba Diver กันไปเลย เรียกได้ว่าเป็น หลักสูตรนักดำน้ำมืออาชีพ เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจที่จะมาเอาดีทางด้านการดำน้ำเพราะว่าใจรักจริงๆ ก็ต้องมาเรียนกันได้เลยค่ะ ซึ่งหลัก สูตรแบบ Professional Scuba Diving นี้จะมีอะไรกันบ้างนั้นเรามาดูกันต่อได้เลยค่ะ

หลักสูตร Professional Scuba Diving คุณก็ต้องลงเรียน ครอส Professional Scuba Diver กันไปเลย เรียกได้ว่าเป็น หลักสูตรนักดำน้ำมืออาชีพ

Dive Master

สำหรับใครที่ได้ผ่านอบรม หลักสูตร Dive Master นี้แล้วคุณก็จะเป็นผู้ที่สามารถทำงานในอุตสาหกรรมการดำน้ำได้แล้ว โดยสามารถช่วยเหลือผู้ที่มีประสบการณ์ในการดำน้ำที่น้อยกว่าได้ สามารถเป็นไกด์ในกลุ่มดำน้ำได้ และสามารถช่วยเหลือครูสอนดำน้ำได้อีกด้วย

Assistant Instructor

และสำหรับหลักสูตรนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่เริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าอนาคตนั้นอยากที่จะเป็นครูสอนดำน้ำอย่างจริงจัง โดยเส้นทางของอาชีพนี้ก็จะเริ่มจากการเป็น Assistant Instructor หรือผู้ช่วย Instructor ตัวจริงก่อนนั้นเอง เรียกได้ว่าเรียนรู้ทุกอย่างและคอยช่วยเหลือ Instructor ในระหว่างการฝึกสอนได้

Open Water Scuba Instructor (OWSI)

และแน่นอนว่าหลักสูตรนี้หากคุณสามารถสอบผ่านได้ทั้งข้อสอบและหลักปฏิบัติคุณก็สามารถมาเป็นครูสอนดำน้ำกันได้แล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็น Instructor แบบเต็มตัวได้เลย และสำหรับหลักสูตรนี้คุณก็สามารถสอน หลักสูตร Open Water ได้เลยค่ะ

Master Scuba Diver Trainer

ระดับการรับรองนักดำน้ำมืออาชีพอีกหนึ่งระดับผู้สอนดำน้ำ ที่รับรองจากนักดำน้ำ 25 คนขึ้นไป และผู้ที่สำเร็จ หลักสูตร Specialty Instructor อย่างน้อย 5 หลักสูตรก็สามารถเป็น “Master Scuba Diver Trainers” ได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าหลังจากไปรับการรับรองนี้คุณจะสามารถสอนใน หลักสูตรที่ Advanced มากขึ้นได้อีกด้วย

IDC Staff Instructor

สำหรับหลักสูตรนี้เรียกได้ว่าขยับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งเป็นการอบรมในหลักสูตรที่เป็นมือขวาของ Director ในการสอนนักดำน้ำที่ต้องจากจะเป็น Instructor นั่นเองแหละค่ะ ซึ่งจะต้องคอยช่วยเหลือ Director ในระหว่างทำการสอนเหล่า Instructor นั่นเอง

Master Scuba Instructor

นี่เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรในการสร้างครูผู้สอนดำน้ำระดับสูง โดยได้รับการยกย่องจากปรมาจารย์นักดำน้ำเลยทีเดียวนะคะ ซึ่งหลักสูตรนี้คุณจะต้องผ่านการทดสอบในระดับที่แตกต่างกัน 150 รายการ สอนหลักสูตร “การตอบสนองฉุกเฉินครั้งแรก” 10 หลักสูตร และเข้าร่วมการสัมมนาของ PADI 3 ครั้งเป็นข้อกำหนดในการได้รับใบรับรองการดำน้ำระดับมืออาชีพ

Director

นี่นับได้ว่าเป็นหลักสูตรขั้นสูงสุดของการเป็นครูสอนดำน้ำมืออาชีพเลยก็ว่าได้ เพราะเรียกได้ว่าเป็น Teacher of teacher เป็น Director ผู้สอน Instructor อีกทีหนึ่ง นี้แหละคือขั้นสูงสุดของ หลักสูตร Professional Scuba diving

หลักสูตร Professional Scuba Diving คุณก็ต้องลงเรียน ครอส Professional Scuba Diver กันไปเลย เรียกได้ว่าเป็น หลักสูตรนักดำน้ำมืออาชีพ


การดำน้ำแบบสันทนาการ

การดำน้ำแบบสันทนาการ

สำหรับ การดำน้ำแบบ Scuba ก็คือการดำน้ำแบบที่เราทราบกันดีว่าเป็น Tank Dive นั่นก็คือการดำน้ำแบบที่เราต้องมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ และถังออกซิเจนติดตัวเราไปด้วยเพื่อที่เราจะสามารถหายใจได้น้ำได้ นั่นก็เพื่อที่เราจะสามารถใช้เวลาอยู่ใต้น้ำ และสำรวจความสวยงามต่างๆ ของโลกใต้น้ำได้ยาวนานมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าหากฟังดูเผินๆก็ราวกับว่าไม่มีอะไรที่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ ก็เพียงแค่สามารถดำลงไปใต้น้ำได้เท่านั้น แต่ว่าอันที่จริงและ การดำน้ำแบบ Scuba ก็มีการแบ่งระดับไว้อีกมากมายตามความสามารถของนักดำน้ำที่ต้องผ่านหลักสูตรการฝึกฝนมาแล้วเท่านั้น โดยมีความลึก และเทคนิคต่างๆเป็นเกณฑ์นั่นเอง

ซึ่งถ้าหากให้แบ่งก็จะมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆนั่นก็คือ

การดำน้ำแบบสันทนาการ และ การเป็นนักดำน้ำมืออาชีพ ซึ่งในวันนี้เราจะมาถูกถึงหลักสูตรการดำน้ำแบบสันทนากากันดีกว่า

Recreational Scuba Diving Certification Levels นี่คือการดำน้ำแบบสันทนาการ หรือการเน้นความเพลิดเพลินในการดำน้ำเท่านั้น ไม่ได้เรียนเพื่อการเป็น Instuctor ในการสอนดำน้ำแต่อย่างใด

ซึ่งการดำน้ำแบบนี้ก็จะแบ่งออกเป็น 5 หลักสูตรด้วยกัน

– Junior Scuba Diver

สำหรับหลักสูตรนี้ จะเป็น หลักสูตรสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 10-15 ปี ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับเด็ก ใน การดำน้ำแบบ Scuba ซึ่งจะใช้ Tank ที่เล็กกว่า และดำน้ำได้ในความลึกไม่เกิน 12 เมตรเท่านั้น ที่สำคัญต้องดำน้ำกับผู้เชี่ยวชาญในทุก Dive อีกด้วย

– Open Water Diver

สำหรับใครที่อายุเกิน รุ่น Junior แล้วก็สามารถมาลงเรียนหลักสูตรนี้กันได้เลย เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรเริ่มต้นสำหรับใครที่ต้องการจะมาเรียนดำน้ำเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Open Water นี้คุณจะสามารถดำน้ำได้ลึกที่ประมาณ 18-20 เมตร และอีกเช่นเคยคือคุณต้องดำน้ำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

– Advanced Open Water

ส่วนใครที่ผ่านการฝึกอบรมและปฏิบัติใน หลักสูตร OWD กันเรียบร้อยแล้วก็ต้องมาเรียนกันต่อใน หลักสูตร Advanced นี้ได้เลยซึ่งหลักสูตรนี้ก็จะเรียนเทคนิคการดำน้ำที่มากขึ้นกว่าเดิม และคุณจะสามารถดำน้ำได้ลึกมากขึ้นกว่าเดิม โดยระดับความลึกจะอยู่ที่ ไม่เกิน 30 เมตรนั่นเองค่ะ

– Rescue Diver

สำหรับหลักสูตรนี้ก็จะเน้นการดำน้ำสำหรับกู้ภัย หรือการช่วยชีวิตผู้อื่น ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินคุณจะสามารถใช้เทคนิคต่างๆที่ได้เรียนรู้มาเพื่อที่จะชีวิต หรือช่วยเหลือเพื่อนนักดำน้ำของเราได้อย่างถูกต้องแะทันท่วงที

การดำน้ำแบบสันทนาการ การดำน้ำแบบสันทนาการ และ การเป็นนักดำน้ำมืออาชีพ ซึ่งในวันนี้เราจะมาถูกถึงหลักสูตรการดำน้ำแบบสันทนากากันดีกว่า

– Master Scuba Diver

และนี่ก็เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรสูงสุดของการดำน้ำแบบ Recreational Scuba Diving แล้ว ซึ่งการที่คุณจะเป็น Dive Master ได้นั้นคุณจะต้องผ่านหลักสูตรหลักๆคือ OWD, AOWD และ Rescue Diver ให้เรียบร้อยเสียก่อนคุณถึงจะสามารถลงหลักสูตร Master Scuba Diver และได้ Title ว่าเป็น Dive Master นั่นเอง

การดำน้ำแบบสันทนาการ การดำน้ำแบบสันทนาการ และ การเป็นนักดำน้ำมืออาชีพ ซึ่งในวันนี้เราจะมาถูกถึงหลักสูตรการดำน้ำแบบสันทนากากันดีกว่า


รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate หนึ่งในรูปแบบ การเล่นสเก็ตบอร์ด ที่ กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนั่นก็คือ Surf Skate

รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate

รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate

หนึ่งในรูปแบบ การเล่นสเก็ตบอร์ด ที่ กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนั่นก็คือ Surf Skate เป็นสเก็ตบอร์ดที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับการที่เรากำลังโต้คลื่นอยู่นั่นเอง ความยากของการเล่นสเก็ตบอร์ดในรูปแบบนี้ก็คือการพยายามทรงตัวและควบคุมให้มันไปข้างหน้า เพราะสเก็ตบอร์ดธรรมดาทั่วไปนั้นจะมีความมั่นคง เมื่อขึ้นไปยืนแล้วการที่จะทำให้มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพียงแค่เอาเท้าลงไปไถพื้นมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง แต่ Surf Skate นั้นผู้เล่นจะต้องใช้สะโพกและเอวในการบังคับให้มันเกิดการเลี้ยวและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าทำให้มีความยากในการทรงตัวมากยิ่งขึ้น

ความยากของมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้มันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ สเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate เล่นสเก็ตบอร์ดแบบ Surf Skate ที่มาในราคา 3,390 บาท ด้านหน้าจะเป็นพื้นสีดำตกแต่งลวดลายกราฟฟิกสีเนื้อ ด้านหลังจะเป็นลายไม้ตกแต่งลวดลายเป็นการ์ตูนรูปแมวสีขาวแบบกวนๆ สำหรับทั้งผู้ที่กำลังเริ่มต้นใน การเล่น Surf Skate หรือในระดับมืออาชีพก็สามารถใช้งานได้ ความยาวจะอยู่ที่ 75 เซนติเมตร ความกว้าง 12 เซนติเมตร และความสูง 24 เซนติเมตร

รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate

สเก็ตบอร์ดรุ่น Truck-C7 Geele by ProSurfskate  ใช้ไม้แคนาเดียนแอปเปิ้ลเป็นวัสดุในการผลิตตัวกระดานโดยนำมาซ้อนทับกันถึง 7 ชั้นทำให้มี ความแข็งแรงทนทานและสามารถรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ลายกราฟฟิกมีความคงทนและสามารถกันน้ำได้ทำให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างสะดวก และเล่นได้ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกหรือพื้นที่มีแอ่งน้ำ ใช้โพลียูรีเทนเป็นวัสดุในการผลิตล้อที่สามารถป้องกันรอยการขูดขีดได้ช่วยให้มันดูใหม่อยู่เสมอ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้น ช่วยให้เล่นได้ง่ายมากขึ้นโดยเฉพาะในการทรงตัวและยังลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย มีความแข็งแรง ฐานล้อสามารถรองรับแรงกระแทกได้สูงช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง

สามารถทำวงเลี้ยวได้แคบ เคลื่อนย้ายได้อย่างคล่องตัว ลูกปืนแบบบอลแบร์ริ่งที่เงียบและช่วยให้ทำความเร็วได้สูงเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 100 กิโลกรัม มีการเพิ่มสปริงที่ช่วยให้มุมโค้งมีความแคบและว่องไวมากยิ่งขึ้น สามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนกับเรากำลังเล่นโต้คลื่นอยู่ในทะเล ใครที่ต้องการจะเปิดประสบการณ์ใหม่ใน การเล่นสเก็ตบอร์ด ดูแล้วล่ะก็ Surf Skate รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมันตอบโจทย์ทั้งความท้าทาย ความแข็งแรงทนทาน และความปลอดภัย


รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Longboard Suncolor 003 หลายคนที่ต้องการสเก็ตบอร์ดที่มีความเรียบง่าย ไม่ต้องมีลวดลายหรือสีสันฉูดฉาดอะไรมากมายนัก

รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Longboard Suncolor 003

รีวิวสเก็ตบอร์ดรุ่น Longboard Suncolor 003

แม้ว่าความโดดเด่นของ สเก็ตบอร์ด แต่ละรุ่นที่เราจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนคือลวดลายของพวกมัน แต่ความจริงแล้วก็มีคนที่ชื่นชอบใน การเล่นสเก็ตบอร์ด หลายคนที่ต้องการสเก็ตบอร์ดที่มีความเรียบง่าย ไม่ต้องมีลวดลายหรือสีสันฉูดฉาดอะไรมากมายนัก แต่สเก็ตบอร์ดที่ไม่มีลวดลายกลับเป็นสิ่งที่หายาก

ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำสเก็ตบอร์ดที่ไม่มีลวดลายทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นสีดำพื้นธรรมดา นั่นก็คือ สเก็ตบอร์ดรุ่น Longboard Suncolor 003 การที่มันไม่มีลวดลายนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบสเก็ตบอร์ดที่เรียบง่ายไม่หวือหวาหรือคนที่ชื่นชอบในการแต่งสเก็ตบอร์ดในรูปแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยการเพ้นท์หรือการติดสติ๊กเกอร์เพราะมีพื้นที่ว่างให้ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเองได้อย่างเต็มที่

แต่ด้วยความที่เป็นลองบอร์ดทำให้ราคาของมันค่อนข้างสูงโดยจะอยู่ที่ 2,690 บาท ในราคานี้จะได้ของแถมมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำมันล้อ ประแจ อะไหล่ล้อสำรอง สติ๊กเกอร์ กันชน และกระเป๋าสำหรับใส่สเก็ตบอร์ด เป็นสเก็ตบอร์ดที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเล่นสเก็ตบอร์ดมาได้สักพัก จนมีความชำนาญในระดับหนึ่งและต้องการที่จะเพิ่มความท้าทายในการเล่นธาตุต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพราะสเก็ตบอร์ดรูปแบบนี้จะเล่นยากกว่าสเก็ตบอร์ดรูปแบบธรรมดาทั่วไป อีกหนึ่งความโดดเด่นของสเก็ตบอร์ดรุ่นนี้ก็คือฐานล้อและล้อก็เป็นสีดำด้วยกันทั้งหมด ต่างจากรุ่นอื่นที่ส่วนใหญ่แล้วฐานล้อก็จะเป็นสีเงินของอลูมิเนียม

สเก็ตบอร์ดรุ่น Longboard Suncolor 003 เล่นสเก็ตบอร์ดที่มีความยาว 120 cm เหมาะสำหรับทั้งคนที่เพิ่งเริ่มเล่นได้สักพักหนึ่งไปจนถึงระดับโปร ล้อผลิตมาจาก ABEC-11 ที่ได้รับความนิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสเก็ตบอร์ดเนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานสูง ส่วนล้อใช้วัสดุอย่างโพลียูรีเทนที่ช่วยเพิ่มคุณภาพในการยึดเกาะกับพื้นให้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เล่นท่าต่างๆ ได้ง่ายและลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุลง ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถปกป้องไม่ให้เกิดร่องรอยการขูดขีดได้ซึ่งจะช่วยให้สเก็ตบอร์ดของเราดูใหม่อยู่เสมอ

บริเวณด้านบนนั้นเป็นแบบกระดาษทรายที่ช่วยให้เราสามารถยืนทรงตัวอยู่บนสเก็ตบอร์ดง่ายๆ ตัวกระดานผลิตมาจากไม้คุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าถึงแม้ว่าจะโดนล้อรถเหยียบก็ตามก็ไม่มีแตกหักอย่างแน่นอน เมื่อเสริมด้วยตัวกันชนที่แถมมาให้ในชุดยิ่งทำให้สเก็ตบอร์ดรุ่นนี้มีความแข็งแรงทนทานและสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานออกไปได้อย่างยาวนานอีกหลายปี


Snorkel อย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธี การดำน้ำขั้นพื้นฐาน นั่นก็คือการดำแบบ Snorkel มาให้คุณได้ทราบกันนะคะ

Snorkel อย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ

Snorkel อย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ

วันนี้เราจะมาแนะนำวิธี การดำน้ำขั้นพื้นฐาน นั่นก็คือการดำแบบ Snorkel มาให้คุณได้ทราบกันนะคะ ซึ่งบางคนเนี่ยอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ การดำแบบ Snorkel มาก่อนเลย หรือว่าบางคนอาจจะเคยดำมาบ้างแล้ว แต่ว่าวิธีการดำแบบไหนล่ะที่จะดูราวกับว่าเราเคยดำมาแล้ว 10 Dive แน่นอนว่าการดำน้ำที่ดูเป็นมืออาชีพนอกจากเราจะสามารถดำได้สนุกแล้ว ก็ยังถ่ายรูปออกมาแล้วดูเจ๋ง ดูคูลอีกด้วยนะคะ เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยค่ะ

ฝึกการหายใจทางปาก

สำหรับ การดำน้ำแบบ Snorkel นั้นเราจะต้องใส่ Mask และเราไม่สามารถหายใจทางจมูกได้ ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการหายใจเป็นการหายใจผ่านทางท่อ Snorkel ทางปากแทน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องลองสวม Mask และ Snorkel เพื่อฝึกการหายใจทางปากจนชินเสียก่อน เวลาลงน้ำจะได้ไม่รู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หายใจไม่ออกแว่นเป็นฝ้า กลายเป็นอาการ Panic ได้ เพราะฉะนั้นรวบรวมสติให้ตั้งมั่น ค่อยเปลี่ยนระบบการหายใจทางจมูกเป็นการหายใจเข้า-ออกทางปากของเราแทน

ใช้ขาให้มากกว่าแขน

สำหรับการดำน้ำแทบจะทุกประเภททั้ง Snorkel Freediving หรือแม้กระทั่ง Scuba เราจะเน้นการเคลื่อนที่โดยการใช้ขาของเรามากกว่าการใช้แขนกวัดแกว่ง เพราะว่าการใช้แขนนั้นจะทำให้สัตว์ทะเลที่อยู่ตรงหน้าเรากลัว และว่ายหนีกระเจิงไปได้ แต่ถ้าคุณใส่ขาตีน้ำให้ร่างกายเคลื่อนไหว จะไม่มีฟอกอากาศมาบดบังวิสัยทัศน์ของคุณสามารถชื่นชมกับความสวยงามของโลกใต้น้ำได้อย่างเต็มที่ และไม่ทำให้สัตว์ทะเลตกใจด้วยนะคะ

ลอยตัวให้ขนานกันผิวน้ำ

วิธีการลอยตัวในการ Snorkel ที่ดีมากที่สุดนั่นก็คือการลอยตัวให้ร่างกายของเราขนานกับผิวน้ำให้มากที่สุดเพราะจะทำให้คุณหายใจได้สะดวกที่สุด และเป็นการจัดระเบียบร่างกายที่คุณสามารถมองลงไปชมความสวยงามของโลกใต้น้ำได้ดีมากมายที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

ฝึกการว่ายน้ำให้เก่งขึ้น

ที่จริงแล้ว การดำน้ำแบบ Snorkel คุณแทบจะไม่ได้ใช้ Skill ใดๆในการว่ายน้ำเลย แต่ก็แน่นอนว่าการที่คุณมาลงน้ำก็ต้องมีความสามารถในการว่ายน้ำติดตัวเอาไว้บ้าง ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากยิ่งขึ้นเวลาที่กำลังดำน้ำแบบ Snorkel เพราะว่าสำหรับคนที่ไม่มีทักษะใดๆในการว่าน้ำหรือลอยตัวเลยอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทำให้จากการที่มาดำน้ำแบบสนุกๆต้องกลายเป็นว่ามีแต่ความกลัว และความกังวลเต็มไปหมด

หายใจเข้า-ออกให้ลึกและยาว

การที่คุณมีการฝึกสมาธิมาไว้ก่อนนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะว่าในขณะที่คุณดำน้ำแบบ Snorkel การหายใจผ่านท่ออากาศนั้น คุณจะต้องหายใจเข้าให้ลึก และหายใจออกให้ยาว ให้หายใจเป็นจังหวะเช่นนี้จะดีที่สุด เพราะว่าการหายใจแบบสั้นๆ ถี่ๆ นอกจากจะทำให้คุณเหนื่อยง่ายแล้ว ก็ยังทำให้คุณ ปอดไม่ได้รับอากาศมากเท่าที่ควรจนลอยตัวได้ไม่ดีก็ว่าได้นะคะ


หา Partner หรือ Buddy ดีๆในการไปปีนหน้าผาได้ที่ไหนดี ใครที่กำลังคิดว่าอยากจะลองไปปีนหน้าผาดูสักครั้งหนึ่งสิ่งที่ดีที่สุดเลยนั่นก็คือ Buddy

หา Partner หรือ Buddy ดีๆในการไปปีนหน้าผาได้ที่ไหนดี

หา Partner หรือ Buddy ดีๆในการไปปีนหน้าผาได้ที่ไหนดี

สำหรับใครที่กำลังคิดว่าอยากจะลองไปปีนหน้าผาดูสักครั้งหนึ่งคุณรู้ใช่ไหมค่ะว่าสิ่งที่ดีที่สุดเลยนั่นก็คือ การหนีบ Buddy ของคุณได้ด้วย เพราะว่าการปีนนั้นมีหลากหลายประเภท และโดยส่วนใหญ่การปีนโดยใช้เชือกคุณจะต้องมี คนที่คอย Belay ให้คุณด้วย ซึ่งหากคุณจะฉายเดี่ยวไปคนเดียวก็ได้แล้วค่อยหาเพื่อนเอาดาบหน้า แต่ว่าจะดีกว่าไหมถ้าหากคุณมี Buddy ที่รู้ใจมีคอย Support ช่วยเหลือ และให้กำลังใจคุณ? และถ้าวันนี้คุณมองซ้าย มองขวาแล้วไม่รู้ว่าจะชวนใครไปด้วยดี วันนี้เรามีมาแนะนำให้คุณกันคะ

เพื่อนซี้ปึก

แน่นอนว่าไม่มีใครจะดีไปกว่าเพื่อนซี้สุดๆของคุณแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นการหากิจกรรมใหม่ๆที่แสนสนุกทำด้วยกันแล้ว คุณก็จะได้มีคนที่เรียกได้ว่ามองตาแล้วรู้ใจความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยให้กำลังใจยามเมื่อคุณกำลังหมดแรง และสามารถกล้าบอกคุณได้เมื่อยามที่คุณทำอะไรผิดพลาด เรียกได้ว่า เพื่อนซี้ของคุณนี่แหละที่สามารถเป็น Buddy ที่ดีๆที่สุดให้คุณได้เลย

คนรัก คนรู้ใจ

และถ้าเพื่อนซี้ของคุณไม่ได้เป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาการปีนหน้าผาสักเท่าไหร่นัก ถ้าคุณมีแฟน เราก็แนะนำให้คุณลองหันไปชวนแฟนของคุณดูนะคะ เพราะเชื่อได้ว่าหากคุณทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ที่ดีแล้วล่ะก็ คนรักของคุณนี่แหละที่จะคอยเป็นห่วงคุณทุกอย่างก้าว และเค้าจะไม่ปล่อยให้คุณได้รักบาดเจ็บหรืออันตรายอย่างแน่นอน รวมถึงการปีนหน้าผานี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ

ครูฝึก

และถ้าสุดท้ายแล้วเพื่อนซี้ของคุณก็ไม่อยากไปปีนหน้าผา และแฟนก็ยังไม่มี เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องสนใจอะไรลองลุยเดี่ยวไปคนเดียวได้เลย และเเจ้งกับทางสถานที่ว่าคุณมาคนเดียว แน่นอนว่าแต่ละที่นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ หรือครูฝึกที่มากประสบการณ์ประจำการอยู่แล้ว คุณก็สามารถจับคู่เป็น Buddy ของครูฝึกไปได้เลย ซึ่งนี่ก็คือข้อดีเพราะว่าคุณจะได้รับคำแนะนำจากผู้ชำนาญการอย่างแท้จริงๆ และได้เรียนรู้ถึงวิธีการปีน และการ Belay ที่ถูกต้องด้วยนะคะ รวมไปถึงระดับในการปีนที่เหมาะกับคุณ การใช้เครื่องมือต่างๆ และพิกัด Holds ให้คุณได้อีกด้วย

เพื่อนใหม่ที่ Gym

มาต่อกันที่การลุยเดี่ยวแล้วปีนกับครูฝึกแล้ว และก็แน่นอนว่าครูฝึกมีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนอื่นๆด้วยมิใช่แค่ตัวเราเพียงผู้เดียว เราแนะนำให้คุณลองหันซ้าย หันขวาสังเกตุการณ์ดูว่ามีใครไหมที่มาคนเดียวแบบคุณ ลองเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักกันดู และลองเสนอตัวเป็น Buddy ดูเผื่อเค้าสนใจด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งใครจะไปรู้ว่า Buddy ที่คุณเพิ่งเจอที่ Gym อาจจะกลายเป็น buddy ในการปีนหน้าผาที่ดีที่สุดของคุณเลยก็ได้ และแน่นอนว่าคนที่ชื่นชอบอะไรเหมือนๆกันก็มักจะเข้ากันได้ไม่ยากอย่างแน่นอน


ความเสี่ยงในการปีนหน้าผาจำลอง กีฬาผาดโผนแล้วอันตรายมักจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ (ถ้าหากคุณคุณเกิดความประมาท) รวมถึงกีฬาการปีนหน้าผาเช่นเดียวกัน

ความเสี่ยงในการปีนหน้าผาจำลอง

ความเสี่ยงในการปีนหน้าผาจำลอง

สำหรับการเล่นกีฬาผาดโผนทุกประเภทนั้นย่อมมีความเสี่ยงตามมาเสมอ เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่ากีฬาผาดโผนแล้วอันตรายมักจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ (ถ้าหากคุณคุณเกิดความประมาท) รวมถึงกีฬาการปีนหน้าผาด้วยเช่นเดียวกัน ที่อาจจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นคุณได้รับอันตรายเล็กน้อย หรืออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นว่านี่เราจะมาลองดูกันว่าความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับกีฬาการปีนหน้าผานั้นมีอะไรกันบ้าง

อุปกรณ์

กีฬาการปีนหน้าผาต้องบอกเลยว่าเป็นกีฬาที่เราจะต้องใช้อุปกรณ์ที่เราสามารถเชื่อใจ และมั่นใจได้มากที่สุด โดยเฉพาะการปีนแบบที่ต้องใช้เชือกนั้นเรายิ่งต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าคำว่าชีวิตแขวนอยู่บนเชือกนั้นมีอยู่จริง หากเชือกขาดก็สามารถทำให้เราตกลงมากระแทกกับพื้นที่จนได้รับบาดเจ็บกันได้ เพราะฉะนั้นก่อนการปีนทุกครั้งคุณจะต้องมีการตรวจสอบสภาพของเชือกที่ใช้ให้ดีว่าไม่มีจุดที่ชำรุดเสียหาย กรอบ หรือขึ้นรา รวมถึงต้องมีการเชคสภาพการใช้งานโดยลองดึง ลองโหนในความสูงที่ไม่มากดูก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าเชือกยังสามารถใช้งานได้ดีจริงๆ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆอย่าง Harness ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเช่นเดียวกัน เพราะคุณจะต้องตรวจดูว่ามีความแข็งแรงทนทาน และมีสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ รวมถึง ตะขอล็อคด้วยเช่นเดียวกันนะคะ

การผูกเงื่อน

แน่นอนว่าหากอุปกรณ์เราพร้อมทุกอย่าง แต่ว่าการผูกเงื่อนคุณหลงลืมขั้นตอนไป หรือผูกผิดวิธี หากมีอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคุณได้ เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องจดจำวิธีการผูกเงื่อนให้ขึ้นใจเลยว่าการเป็น Climber ต้องผูกอย่างไร ตำแหน่งเชือกต้องอยู่ตรงไหน การเป็น Belayer จะต้องเก็บเชือกอย่างไร ผูกเงื่อนเชือกติดกับตัวเราอย่างไร ซึ่งหากคุณผูกไม่ดีแล้วเชือกเกิดหลุดระหว่างการปีน เราก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทันท่วงที และแน่นอนว่าเราจะต้องแก้ไขโดยการพลัดกันเช็คความปลอดภัยและความเรียบร้อยให้ Buddy ของเราก่อนทำการปีนทุกครั้งนะคะ เพื่อความปลอดภัย

ความไม่ประมาท

สำหรับการปีนหน้าผานั้นไม่ใช่เพียงแค่ Climber ที่จะต้องมีความระมัดระวังทุกอย่างก้าว และการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ Belayer เองก็ต้องมีสมาธิจดจ่อกับทุกสเตปในการปีนด้วยเช่นกัน การ Belay นั้นเรียกได้ว่าเป็นการ Support ผู้ที่ทำการปีน คุณจะต้องเป็นผู้ที่คอยปล่อยเชือก และค่อยๆปล่อยเชือกให้ผู้ปีนโรยตัวขึ้นมา หากคุรดึงเชือกเก็บเชือกผิดจังหวะ หรือถ้าหากคุณเผลอยกเชือกขึ้นให้อยู่ผิดตำแหน่งแล้วล่ะก็จะทำให้ผู้ที่กำลังทำการปีนนั้นตกลงมาและอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมีสติ มีสมาธิในทุกจังหวะของการปีน และการ Belay เลยทีเดียว

ความเสี่ยงในการปีนหน้าผาจำลอง


รูปแบบการแข่งรถทางเรียบระยะสั้น หรือ Drag raching โดยการแข่งขันจะใช้ระบบจับเวลาและระบบตรวจจับความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจับเวลา

รูปแบบการแข่งรถทางเรียบระยะสั้น หรือ Drag raching

รูปแบบการแข่งรถทางเรียบระยะสั้น หรือ Drag raching

รูปแบบการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทางเรียบระยะสั้น โดยวัดระยะจากจุดเริ่มต้นจนถึงเส้นใช้มีระยะทางมาตรฐานคือ 1.4 ไมล์ หรือ 402 เมตร กับระยะทางแบบสั้น 1,000 ฟุตหรือ 3.5 เมตร โดยการแข่งขันจะใช้ระบบจับเวลาและระบบตรวจจับความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบันทึกผลการแข่งขัน

การเตรียมพร้อมเครื่องยนต์เพื่อแข่งขันแดร็กเรสซิ่งในสนาม

ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน นักแข่งแต่ละคนสามารถทำการเบรินเอ้าท์เพื่อวอมเครื่องรถยนต์ /จักรยานยนต์ และยางให้มีความร้อนจนเกิดการเผาไห้มและทำให้ควันฟุ้งไปทั่วซึ่งนักแข่งเด็กน้อยวัยรุ่นบางคนไม่เข้าใจ คิดว่าทำแบบนี้เป็นเหมือนเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ที่ทางสนามแข่งรถอนุญาตให้ทำการวอมเครื่องยนต์ได้นั้นเพื่อให้สร้างแรงฉุดกับตัวรถยนต์จนถึงขีดสุดนั่นเอง

รูปแบบการแข่งรถทางเรียบระยะสั้น หรือ Drag raching

ขั้นตอนการแข่งขันอาศัยไฟคริศมาส์เป็นตัวแจ้ง

การแข่งปัจจุบันจะใช้ตัวจับเวลาเริ่มที่เรียกว่า “ไฟคริสมาส์” โดยจะเป็นไฟที่อยู่ด้านหน้าของนักแข่ง รวมถึงเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวในแต่ละเลน ประกอบไปด้วยดวงไฟสีน้ำเงิน สีเหลือง สีเขียว และสีแดง ซึ่งแต่ละสีแต่ละดวงมีความหมาย เช่น

  • ดวงไฟสีแรกติดหลังจากที่ล้อหน้าของรถข้ามเข้าเส้นเรียกว่า “Pre-staged” ประมาณ 7 นิ้ว (180 มม.) จากเส้นเริ่มต้น เมื่อเซนเซอร์ที่ซองจับสัญญาณได้จะเรียกว่า “Staged”
  • ไฟดวงที่สองก็จะสว่างขึ้น รถอาจออกจาก Pre-Stage ได้แต่ต้องอยู่ใน Stage จนกว่าจะเริ่มการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น

การแข่งขันรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทางเรียบระยะสั้นหรือ แดร็กเสซิ่งเหล่านี้นิยมมากในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วแพร่หลายมายังทวีปเอเซีย เช่น ดูไบ ไทย ศรีลังกา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เป็นต้น

ทำไมการแข่งขัน Drag raching จึงต้องใช้ระยะทาง 402 เมตร

การแข่งขัน Drag raching ด้วยระยะทาง 402 เมตร สาเหตุที่ใช้ระยะทางจำนวน 402 เมตรเพราะการแข่งรถทางตรงมี 2 ปัจจุบัยที่ต้องให้ความสำคัญได้แก่

  • รูปแบบ
  • ระยะทาง

โดย การแข่งแดร็กเรสซิ่ง เป็นรูปแบบ การแข่งขันรถไม่ว่าจะรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ครั้งละ2 คันออกตัวพร้อมๆ กัน แต่ถ้าแข่งทีละคันแล้วทำการจับเวลาเพื่อหาคันที่ใช้เวลาดีที่สุดจะเรียกการแข่งขันประเภทนี้ว่า Time Trial นอกจากนี้แล้วหากการแข่งขันทำการจับเวลาเฉพาะช่วงที่ล้อของรถหมุนตั้งแต่พ้นจากเส้นสตาร์ทจนถึงเส้นชัย วงการแข่งรถก็จะเรียกรูปแบบนี้ว่า “อีที เรคคอร์ด” ที่กล่าวมาทั้งหมดคือความแตกต่างในเรื่องของรูปแบบ

ส่วนในเรื่องของ “ระยะทาง” ที่ใช้ 402 เมตรซึ่งความจริงแล้วจะเกินมาเล็กน้อยนั้นกเพราะเป็นระยะทางที่สามารถเร่งความเร็วได้เต็มกำลังของเครื่องยนต์และเป็นช่วงระยะทางที่ผู้ชมสามารถมองเห็นด้วยการกวาดสายตาตามเพียงครั้งเดียว ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไปเท่านั้นเอง


กีฬาแข่งขันรถวิบากและสนามแข่งรถในประเทศไทย สนามแข่งรถวิบากในไทย เป็นสนามที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่

กีฬาแข่งขันรถวิบากและสนามแข่งรถในประเทศไทย

กีฬาแข่งขันรถวิบากและสนามแข่งรถในประเทศไทย

สนามแข่งรถวิบากในไทย เป็นสนามที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ที่ต้องอาศัยนักแข่งที่มีทักษะสูง ผ่านรูปแบบของสนามแข่งขั้นที่มีกายภาพของพื้นที่สนามสูงต่ำ พร้อมด้วยอุปสรรคประเภทต่างๆ มากมาย ซึ่งเรียกการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ว่าการ “แข่งรถวิบาก” อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีความพยายามจัดการแข่งขันรถยนต์วิบากบน สนามแข่งรถไทย เช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถจักยานยนต์ วันนี้เราจะมารู้จักการแข่งรถวิบากประเภทมอเตอร์ไซต์พร้อมกับสนามในไทยกันว่ามีที่ไหนบ้าง

กีฬาแข่งขันรถวิบากและสนามแข่งรถในประเทศไทย

ประเภทของการแข่งขันรถวิบากใน สนามแข่งรถไทย

สำหรับการแข่งขันในประเทศสนามแข่งรถวิบากในไทย จะมีความแตกต่างไปจากการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ใช้เพียงความเร็วอย่างเดียวที่เรียกว่า “โรดเรดซิ่ง” เพราะการแข่งรถวิบากนั้นเป็นการแข่งขันที่เอาชนะอุปสรรคประเภทต่างๆ ที่แต่ละสนามทำขึ้น ดังนั้น การแข่งรถวิบากจึงแบ่งรูปแบบการแข่งขันอีกเป็นดังนี้

  • Dakar Rallyเป็นการแข่งขันประเภทแรลลี่มีระยะทางในการขับขี่ที่ไกลและยาวนานเส้นทางเต็มไปด้วยอุปสรรคต่างๆ มากมายต้องอาศัยทักษะและความอดทนสูง โดยจะทำการแข่งขันในพื้นที่ทะเลทรายซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นหินกรวด หน้าผาโดยใช้มอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 450 CC ไป
  • MXGP/MX2เป็นรูปแบบที่เรียกว่า “โมโตครอส” ที่ผู้แข่งขันต้องบุกตะลุยทุกอย่างรวมถึงอาจจะมีขึ้นที่สูงลงที่ต่ำมีทั้งขรุขระมีสิ่งกีดขวาง เพื่อเป็นการสร้างความยากลำบากและเพิ่มความโหด ผู้ขับขี่จะมีการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์โดยทำการตัดไฟหน้าและไฟท้ายออกเพื่อลดน้ำหนักของพาหนะและควบคุมรถได้ง่ายขึ้น คล่องแคล่วในการขับขี่และใช้ยางล้อแบบหนามเพื่อใช้กับทุกสภาพถนน
  • Enduroเป็นการแข่งขันที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ครอสแต่มีระยะทางที่ไกลกว่า มอเตอร์ไซต์จะใช้เครื่องที่มีกำลังรอบต่ำเพื่อที่จะได้สามารถทำให้วิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่า และวิ่งในระยะที่ไกล
  • Trial Bikeเป็นการแข่งขันที่ใช้มอเตอร์ไซค์วิบากแบบไม่มีเบาะนั่งซึ่งทำให้รถมันมีน้ำหนักเบาและต้องบอกหรือว่าเครื่องยนต์มีการปรับแต่งให้ไม่แรงมาก เน้นการทรงตัวและควบคุมทิศทางผ่านสิ่งกีดขวางสูงต่ำซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ทักษะเป็นอย่างมาก

ทั้ง 4 รูปแบบคือการแข่งขันที่ถูกจัดขึ้นในการแข่งรถวิบากในไทย นั่นเอง

สนามแข่งรถวิบากในประเทศไทย

สำหรับสนามแข่งรถไทยที่จัดให้มีการแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากประกอบไปด้วย 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย ดังต่อไปนี้

  1. สนามไทยแลนด์เซอร์กิต หรือนครชัยศรี มอเตอร์สปอร์ต คอมแพล็กซ์ จังหวัดนครปฐม เป็นสนามแข่งรถนานาชาติได้จัดรายการแข่งขันระดับประเทศและระดับภูมิภาคมาแล้วหลายรายการมีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 30 ไร่เปิดดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา
  2. สนามพีระเซอร์กิต พัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสนามแข่งขันถยนต์และรถจักรานยนต์ทุกรูปแบบรวมถึงรถโกคาร์ทอีกด้วย
  3. สนามแข่งรถฟาร์แกะ จังหวัดเชียงใหม่
  4. สนามแข่งรถแก้วไทรเลิศเซอร์กิต จังหวัดปราณบุรี
  5. สนามแข่งรถวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์
  6. สนามแข่งรถดอนลังกา จังหวัดสกลนคร
  7. สนามแข่งรถขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
  8. สนามแข่งรถระนองซุปเปอร์ครอส จังหวัดระนอง
  9. สนามแข่งรถทองดีโมโตครอส จังหวัดน่าน
  10. สนามแข่งรถคลอง 5 จังหวัดปทุมธานี

ทั้งหมดคือ 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกสร้างขึ้นในรูปแบบชั่วคราว เพราะการแข่งขันในลักษณะนี้ไม่ใช่การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ที่เน้นแต่ความเร็วของเครื่องยนต์เท่านั้นแต่ต้องอาศัยทักษะ และความอดทนพร้อมทางการอ่านทางออกของอุปสรรคสิ่งกีดขวางต่างๆ เพื่อให้ผ่านพื้นที่และเส้นทางในแต่ละช่วงของการแข่งขันไปให้ได้อีกด้วย

การแข่งขันที่นอกจากอาศัยความเร็วแล้วยังต้องมีสกิลชั้นสูง

การแข่งขันรถวิบากถือว่าเป็นรายการแข่งขันที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร้าและความเร้าใจรวมถึงการดูวิธีการแก้ปัญหาเพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนอีกด้วย


กีฬาแข่งขันมอเตอร์ไซต์ทางเรียบ การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ รูปแบบการจัดการแข่งขันสามารถจัดได้ทั้ง 3 แบบสากลที่มีการจัดแข่งขันอยู่ทั่วโลก

กีฬาแข่งขันมอเตอร์ไซต์ทางเรียบ

กีฬาแข่งขันมอเตอร์ไซต์ทางเรียบ

สำหรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบนั้น รูปแบบการจัดการแข่งขันสามารถจัดได้ทั้ง 3 แบบสากลที่มีการจัดแข่งขันอยู่ทั่วโลกได้แก่การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบแบบ

1.Endurance World Champion (EWC)

การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เวลายาวนานที่สุดแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบ 4 ชั่วโมง และแบบ 8 ชั่วโมง โดยที่ระหว่างการแข่งขันห้ามมีการเปลี่ยนรถแต่สามารถเปลี่ยนนักแข่งได้สูงสุด 3 คน อรรถรสของการแข่งขันเริ่มตั้งแต่เวลาออกสตาร์ทที่มีรูปแบบเป็นการเฉพาะตัว โดยนักแข่งทุกคนต้องยืนอยู่ที่เส้นฝั่งตรงข้ามรถของตนเอง เมื่อสัญญาการแข่งขันเริ่มขึ้น นักแข่งต้องวิ่งไปที่รถเพื่อสตาร์ทรถแล้วขับขี่ออกไป

2.World Superbike

การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่เน้นความเร็วด้วยการนำเอารถมอเตอร์ไซค์ประเภท SuperSport ที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดมาทำการปรับแต่งพัฒนาศักยภาพของตัวรถเพิ่มสมรรถนะต่างๆ เพื่อนำลงแข่งในสนามซึ่งแต่ละค่ายรถมีข้อจำกัดในการเลือกตัวรถเพื่อการปรับแต่งนั้นต้องเป็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภทเครื่องยนต์สูงสุด 4 สูบ พิกัด 750 และ 1,200cc เท่านั้น การแข่งขันจะทำการแข่งกันทั้งหมด 2 สนาม ความสนุกของการแข่งขันประเภทนี้คือช่วงทางตรงที่รถทุกคันเร่งความเร็วสูงสุดในจะแซงกันอย่างเข่าติดพื้นในช่วงทางโค้ง

3.MotoGP 

เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่เน้นความเร็วแบบเดียวกับ World Superbike แต่มีความแตกต่างในส่วนของตัวรถ ที่การแข่งขันโมโตจีพีจะออกแบบรถมอเตอร์ไซค์เพื่อใช้เฉพาะในการแข่งขันเท่านั้น

และการแข่งขันรายการ MotoGP ที่ถือว่าเป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ที่พิเศษ โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

MotoGP การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุดและเก่าแก่ที่สุด

MotoGP หรือการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ใช้รถต้นแบบเฉพาะเพื่อการแข่งขันเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1949 เป็นการแข่งขันกีฬารถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตที่แพ้ชนะกันด้วยความเร็วรถคันไหนสูงกว่ากันในระยะทาง 1 รอบสนาม การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบแบบ MotoGP ในปัจจุบันมีการแข่งกันอยู่ 3 รุ่น คือ

  • Moto3การแข่งขันรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 250cc 1 สูบ เป็นรายการสำหรับนักบิดหน้าใหม่ที่เรียกว่า “รุ้กกี้” เพื่อสร้างความพร้อมให้กับตัวนักแข่งเองได้เรียนรู้ในสภาพการแข่งขันจริง บรรยายกาศจริงก่อนจะพัฒนาไปในรุ่นที่สูงขึ้นกว่านี้
  • Moto2การแข่งขันรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 600cc 4 สูบ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องใช้เครื่องยนต์เฉพาะของ Honda เท่านั้นในการแข่งขันซึ่งทางบริษัทฮอนด้าจะทำการแจกเครื่องยนต์ให้กับทุกทีมนำไปพัฒนาออกรถต้นแบบต่อไป
  • Moto GPการแข่งขันรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1000cc 4 สูบ โดนเครื่องยนต์ที่ใช้จะถูกออกแบบให้มีการวางเครื่องเป็นมุม 45 องศา ในหมู่นักแข่งและวงการรถยนต์จึงเรียกเครื่องยนต์ประเภทนี้ว่าเครื่อง V โดยการวางเครื่องแบบนี้จะมีผลต่อการจุดระเบิด รอบเครื่องและแนวการวางเรียงกระบอกสูบนั่นเอง

กีฬาแข่งขันมอเตอร์ไซต์ทางเรียบ ปัจจุบันสนามแข่งรถในไทยหลายสนามมีศีกยภาพเพียงพอที่สามารถจัดการแข่งขันรายการประเภทนี้ได้เช่นกัน