Archives 1 ธันวาคม 2020

จักรยานยนต์ทรงรถวิบากมีกี่แบบ

จักรยานยนต์ทรงรถวิบากมีกี่แบบ

หากใครอยากจะเปลี่ยนแนว หรือลองไปใช้จักรยานยนต์วิบาก บางทีก็อาจจะงงพอสมควรควรว่าจริง ๆ แล้วจักรยานยนต์วิบากนั้นมีกี่แบบ มีแบบไหนบ้าง และควรใช้แบบไหนดีจึงจะเหมาะกับตัวเอง หากคนที่ไม่ได้คลุกคลีกับวงการรถจริง ๆ จัง ๆ ก็อาจจะมองมองว่ารถจักรยานยนต์วิบากนั้น เหมือน ๆ กันหมด ทั้งรูปทรงอะไรต่าง ๆ แทบจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วจักรยานยนต์วิบากที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้น แบ่งได้เป็น 3 แบบหลัก ๆ ด้วยกัน ก็คือ ทรงโมโตครอส ทรงโมตาร์ด และทรงเอ็นดูโร่ ซึ่งทั้ง 3 รูปทรงนี้ ก็มีรายละเอียดของตัวรถ รวมไปถึงการใช้งานที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควรควร แต่จะแตกต่างกันตรงไหน ก็มีดังนี้

จักรยานยนต์ทรงรถวิบากมีกี่แบบ

รถจักรยานยนต์วิบาก ทรงโมโตครอส (Motocross)

รูปแบบของจักรยานยนต์ โมโตครอสนั้น จุดเด่นของรูปทรงจะอยู่ที่ความเล็ก ปราดเปรียว เบา กะทัดรัด เหมาะสำหรับสายเน้นลุยไปในเส้นทาง โหด ๆ ปีนป่าย หรือท่องไปตามเส้นทางธรรมชาติ ปีนข้ามท่อนไม้ กิ่งไม้ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หรือใช้ลงทำการแข่งขันในสนามก็ยังเป็นที่นิยมกันไม่น้อย แต่ที่ไม่เหมาะสำหรับรถ Motocross เป็นอย่างยิ่งก็คือการใช้เป็นพาหนะประจำวัน หรือออกทริปไกล ๆ เพราะจักรยานยนต์ Motocross นั้นถูกออกแบบมาให้น้ำหนักเบาที่สุด บางส่วนของรถจึงถูกตัดออกไปเช่น ไฟส่องสว่างด้านหน้า สัญญาณไฟท้าย ไฟเลี้ยว แตรรถ แผงหน้าปัดที่คอยบอกสถานะต่าง ๆ นั่นก็จึงทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนรถกับขนส่งได้อีกด้วย ในส่วนจุดเด่นของจักรยานยนต์ Motocross นั้นก็คือยางที่ใหญ่ดอกยางเป็นตุ่มหนาเพื่อให้พร้อมสำหรับการลุยไปทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางที่ลื่นบนพื้นหินเส้นทางดินลูกรังลุยฝ่าโคลนหรือจะเอาไปปั่นทรายก็สามารถทำได้ดีเป็นอย่างมาก

รถจักรยานยนต์วิบากรูปแบบ ทรงโมตาร์ด (Motard)

สำหรับรถจักรยานยนต์วิบากแบบ Motard เป็นจักรยานสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ ที่ชอบความโดดเด่นด้านการขับขี่ที่พร้อมจะลุย ทุกสถานการณ์ เพราะจักรยานยนต์วิบากทรง Motard นั้นสามารถใช้ขับขี่เป็นยานพาหนะประจำวันได้ ออกทริปไกล ๆ ได้เพราะมีอุปกรณ์ทุกอย่างในรถครบทุกอย่างตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว โดยการออกแบบของรถนั้น จะเน้นให้ใช้บนเส้นทางที่เรียบเพราะยางสำหรับรถจักรยานยนต์ Motard จะไม่ใหญ่ และดอกยางหนาเหมือนรถโมโตครอส นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่รถในรูปแบบนี้อาจทำไม่ดีนักในการวิ่งในเส้นทาง ลุยโคลน พื้นดิน หรือฝ่าไปในเส้นทางธรรมชาติ เหมือนอย่างที่รถ Motocross ทำได้ แต่ช่วงล่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่แข็งแกร่ง เพราะยังคงเป็นมาตรฐานเดียวกับจักรยานยนต์ออฟโรด ที่ค่อนข้างจะมีความอเนกประสงค์ในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะการเดินทางไกล

 

รถจักรยานยนต์วิบาก ทรงเอ็นดูโร่ (Enduro)

จักรยานยนต์ Enduro ถือเป็นจักรยานยนต์วิบากที่ครบเครื่องมากที่สุด เพราะเป็นการผสมผสาน ความปราดเปรียว คล่องตัว บุกฝ่าได้ทุกเส้นทางไม่ว่า จะเป็นทางดิน ทางโคลน ทางธรรมชาติ ในรูปแบบของจักรยานยนต์ Motocross เข้ากับการใช้งานบนเส้นทางเรียบ การใช้เป็นพาหนะประจำวัน รวมถึงการออกทริปไกล ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาในรูปแบบ ของจักรยานยนต์แบบ Motard โดยจักรยานยนต์ ทรงเอ็นดูโร่นั้น สามารถจดทะเบียนกับขนส่งได้เพราะมีสเปกรถได้มาตรฐาน ทั้งไฟหน้า ๆ ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และแผงหน้าปัดที่บอกสถานะต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ในส่วนของยางนั้น ก็เป็นยางสำหรับรถวิบากโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความใหญ่ และหนาของยาง ดอกยางที่ดก และถี่ นั่นจึงทำให้รถจักรยานยนต์เอ็นดูโร่นั้น เป็นที่นิยมมาก เพราะความสารพัดประโยชน์นั่นเอง หากใครรักการลุยฝุ่น พร้อมกับความเป็นพาหนะคู่ใจ ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน จักรยานยนต์เอ็นดูโร่คือคำตอบที่ดีที่สุด

 

# Kawasaki KLX 230 R

อุปกรณ์อุปโภคบริโภคที่ต้องมีแล้วการเล่นสกีจะดีเวอร์

อุปกรณ์อุปโภคบริโภคที่ต้องมีแล้วการเล่นสกีจะดีเวอร์

      หากจะออกไปเล่นสกีนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องไม่เจ็บป่วย หรือมีร่างกายที่ผิดปกติใด จึงะทำให้การเล่นสกีนั้นเป็นไปได้ด้วยดี และนอกจากการเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมแล้ว นอกเหนือจากนี้เรา็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมด้วยเช่นกัน เผื่อไปเล่นสกีในระะทางที่ไกล ดังั้นจึงต้องเตรียมทั้งของอุปโภค บริโภคให้พร้อม ซึ่งเรามาดูกันเลยดีกว่าอุปกรณ์ที่เราควรที่จะเตรียมไปนั้นมีอะไรบ้าง แต่ขอบอกก่อนว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างนั้นที่ไม่ถึงกับต้องมีครบถ้วนทุกอย่างเสมอไป แต่ถ้าหากเตรียมให้มีไว้บ้างก็จะทำให้การเล่นสกีนั้นเป็นไปได้ด้วยดีอย่างยิ่งเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาดูกันเลยว่ามีอะไรกันบ้าง

อุปกรณ์อุปโภคบริโภคที่ต้องมีแล้วการเล่นสกีจะดีเวอร์

     อันดับแรกเลยก็คือ เจ้า Hip Protector นั่นเองซึ่งลักษณะของมันจะมีรูปร่างเหมือนกางเกงรัดรูปขาสั้นที่ใส่กันโดยทั่วไป แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือมีฟองน้ำหนาบุรอบสะโพกและก้นของผู้สวมใส่ ซึ่งสิ่งที่เพิ่มขึ้นมานี้มันจะช่วยลดแรงกระแทกและความเจ็บปวดแก่ร่างกายในขณะที่เราล้มถ้าหากไม่มีเจ่าตัวนี้คอยเป็นที่ป้องกันอยู่ เมื่อเราล้มก้นจ้ำเบ้าได้นั่นเอง โดยส่วนมากก็จะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นสกีที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ เพื่อนเป็นการเซฟตี้จึงควรมี Jip Protecter ไว้นั่นเอง

     ต่อไปนั่นก็คือกระเป๋าตังค์ที่มีขนาดกระทัดรัดมีใบขนาดเล็กๆ ที่พกพาได้สะดวกสบาย ซึ่งถ้าหากเรานั้นมีกระเป๋าตังคเล็กๆซึ่งมีขนาดที่ใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงได้อย่างพอดี จะทำให้มีความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม หากถึงเวลาที่เราต้องการซื้อเครื่องดื่มหรือของว่างเพื่อไว้ทานให้อยู่ท้องเล็กๆน้อยๆก็นำมาใส่ในกระเป๋าใบเล็กๆนี้ทำให้ไม่เกะกะเวลาเล่นสกีนั่นเอง หนทางการแก้ปัญหามีเพียงนิดเดียวอยู่ที่เราจะเรียนรู้ไปกับมัน

     ลำดับต่อมาที่ควรมีนั่นก็คือ ซิปล็อคกันน้ำ

ความสำคัญของซิปล็อคกันน้ำนั่นก็คือ จะช่วยป้องกันอันตรายแล้วป้องกันความเสียหายให้กับโทรศัพท์มือถือของเรานั่นเอง เมื่อเวลาที่มีเกร็ดหิมะมาเกาะตรงกระเป๋าใส่โทรศัพท์ก็จะทำให้โทรนั้นเกิดความชื้น ดังนั้นหากเรามีซิป็อคกันน้ำก็จะช่วยปกปิดโทรศัพท์ได้อีกชั้นนึงนั่นเอง ซึ่งป้องกันความเสียหายได้มากกว่าเก่าเลยทีเดียว

     ต่อไปต่อคือ ขนมเล็กน้อย

สำหรับขนมนั้นเราจะพกหรือไม่พกติดตียไปก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน แต่ถ้าหากเราเริ่มเล่นสกีเมื่อไหร่แน่นอนว่าเราต้องเล่นในระยะที่ไกลอย่างแน่นอน แล้วกว่าเราจะเดินไปเป้าหมายหรือจุดพักที่ตั้งเป้าไว้ก็ใช้เวลาที่นานอยู่พอสมควร ดังนั้นการพกขนมเล็กๆน้อยๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ขนมที่พกไปอาจเป็นจำพวกพช็อกโกแลตแท่ง ขนมต่างๆ ขนมธัญพืช หรือซีเรียลแท่งเอาไว้เติมพลังให้กับร่างกายจนถึงจุดหมายปลายทางกันค่ะ

     สำหรับสิ่งสุดท้ายที่ควรจะพกไปนั่นก็คือ ครีมกันแดด และลิปมัน

หลายคนอาจจะสงสัยว่าไปเล่นสกีในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำไมจึงต้องใช้ครีมกันแดด นั่นก็เพราะว่า ต่อให้แดดไม่ออก แต่แสงอาทิตย์และรังสียูวีก็ส่องทะลุเมฆลงมาได้อยู่ดี และแสงนี้ก็ทัลุผ่านมาได้ทุกทาง่นเอง เพื่อเป็นการถนอมผิดก็ควรทาไว้ ป้องกันผิวแห้งของเราได้อีกด้วย และสำหรับลิปมันนั้นก็มีไว้เพื่อทาริมฝีปากเมื่ออากาศหนาวเย็นก็จะทำมให้ปากของเรานั้นซีดชาแลพฝะแ้งเแามากๆ ดังนั้นจึงต้องพกไปด้วย

ปล่อยโปสเตอร์แล้ว กับ 2IN1 SUPERTOURNAMENT